คุณกำลังมองหา ศัพท์ การ ประชุม ภาษา อังกฤษ ที่ใช้ได้จริงในสถานการณ์ทำงานใช่ไหม? บทความฉบับสมบูรณ์นี้รวบรวมศัพท์และวลีสำคัญกว่า 50 รายการ พร้อมสัทอักษรสากล (IPA) ความหมาย และตัวอย่างประโยคที่นำไปใช้ได้ทันที ครอบคลุมทุกสถานการณ์ตั้งแต่การเปิดประชุม ภาษาอังกฤษ การแสดงความเห็น การปฏิเสธอย่างสุภาพ ไปจนถึงการปิดประชุม ประ จํา เดือน ภาษา อังกฤษอย่างมืออาชีพ เตรียมพร้อมเปลี่ยนคุณจาก “ผู้เข้าร่วม” ให้กลายเป็น “ผู้ขับเคลื่อน” การประชุมได้ตั้งแต่วันนี้
I. ศัพท์ การ ประชุม ภาษา อังกฤษ – จำแนกตามหัวข้อ
1. ศัพท์เกี่ยวกับการจัดการประชุม (Meeting Management)
| คำศัพท์ | สัทอักษรสากล (IPA) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค |
| Quorum | /ˈkwɔːrəm/ | จำนวนผู้เข้าร่วมขั้นต่ำที่จำเป็นเพื่อให้การประชุมถูกต้องตามกฎหมาย | “We need at least five members to meet quorum.” (เราต้องการสมาชิกอย่างน้อยห้าคนเพื่อให้ครบองค์ประชุม) |
| Adjourn | /əˈdʒɜːrn/ | เลื่อนหรือหยุดการประชุมชั่วคราว | “Let’s adjourn until 2 PM after lunch.” (เรามาเลื่อนประชุมไปตอนบ่ายสองโมงหลังกลับจากกินข้าวกลางวันนะครับ) |
| Postpone | /poʊstˈpoʊn/ | เลื่อนการประชุมไปยังวันหรือเวลาอื่น | “We need to postpone tomorrow’s meeting to next week.” (เราต้องเลื่อนการประชุมพรุ่งนี้ไปเป็นสัปดาห์หน้า) |
| Reschedule | /riːˈskedʒuːl/ | กำหนดวันหรือเวลาประชุมใหม่ | “Can we reschedule the meeting to Thursday instead?” (เราเปลี่ยนนัดประชุมเป็นวันพฤหัสแทนได้ไหมครับ) |
| Convene | /kənˈviːn/ | เรียกประชุมหรือรวมตัวกัน | “The board will convene next Monday.” (คณะกรรมการจะประชุมกันวันจันทร์หน้า) |
| Facilitate | /fəˈsɪlɪteɪt/ | ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการประชุมเพื่อให้เป็นไปอย่างราบรื่น | “Sarah will facilitate today’s discussion.” (คุณซาร่าห์จะเป็นผู้ดำเนินการพูดคุยวันนี้ครับ) |
| Moderator | /ˈmɑːdəreɪtər/ | ผู้ดำเนินการประชุมหรือการอภิปราย | “Who will be the moderator for the panel discussion?” (ใครจะเป็นผู้ดำเนินรายการสำหรับการพูดคุยแบบแพนเนลครับ) |
| Chairperson | /ˈtʃerˌpɜːrsn/ | ประธานในที่ประชุม | “The chairperson called the meeting to order.” (ประธานเรียกประชุมให้เริ่มขึ้น) |
2. ศัพท์เกี่ยวกับการตัดสินใจและการลงคะแนน (Decision-Making & Voting)
| คำศัพท์ | สัทอักษรสากล (IPA) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค |
| Consensus | /kənˈsensəs/ | ความเห็นพ้องต้องกันของคนส่วนใหญ่หรือทั้งหมด | “We need to reach consensus before moving forward.” (เราต้องบรรลุฉันทามติก่อนที่จะดำเนินการต่อ) |
| Unanimous | /juːˈnænɪməs/ | เป็นเอกฉันท์ หรือเห็นพ้องกันทุกคน | “The decision was unanimous.” (การตัดสินใจนั้นเป็นเอกฉันท์) |
| Majority | /məˈdʒɔːrəti/ | เสียงข้างมาก หรือมากกว่าครึ่ง | “The majority voted in favor of the proposal.” (เสียงข้างมากโหวตเห็นด้วยกับข้อเสนอนั้น) |
| Vote | /voʊt/ | การลงคะแนนเสียง | “Let’s take a vote on this issue.” (เรามาลงคะแนนเสียงในประเด็นนี้กันเลย) |
| Motion | /ˈmoʊʃn/ | ข้อเสนอหรือญัตติที่ยื่นเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณา | “I’d like to make a motion to approve the budget.” (ผมขอเสนอญัตติให้อนุมัติงบประมาณครับ) |
| Second | /ˈsekənd/ | การสนับสนุนหรือรับรองญัตติที่มีคนเสนอ | “I second that motion.” (ผมรับรองญัตตินั้นครับ) |
| Abstain | /əbˈsteɪn/ | งดออกเสียงหรือไม่ลงคะแนน | “Three members abstained from voting.” (สมาชิกสามคนงดออกเสียง) |
| Veto | /ˈviːtoʊ/ | การยับยั้งหรือคัดค้านการตัดสินใจ | “The CEO has the power to veto any decision.” (ซีอีโอมีอำนาจยับยั้งการตัดสินใจใดก็ได้) |
3. ศัพท์เกี่ยวกับการนำเสนอและรายงาน (Presentation & Reporting)
| คำศัพท์ | สัทอักษรสากล (IPA) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค |
| Overview | /ˈoʊvərˌvjuː/ | ภาพรวมหรือสรุปโดยรวม | “Let me give you a quick overview of our progress.” (ขอสรุปภาพรวมความคืบหน้าของเราแบบคร่าวๆ นะครับ) |
| Breakdown | /ˈbreɪkdaʊn/ | การแจกแจงหรือแยกรายละเอียด | “Here’s a breakdown of the costs by department.” (นี่คือการแจกแจงค่าใช้จ่ายแยกตามแผนกครับ) |
| Insight | /ˈɪnsaɪt/ | ความเข้าใจเชิงลึกหรือข้อค้นพบที่สำคัญ | “Our analysis provides valuable insights into customer behavior.” (การวิเคราะห์ของเราให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกค้า) |
| Metrics | /ˈmetrɪks/ | ตัวชี้วัดหรือข้อมูลที่ใช้วัดผล | “Let’s review the key performance metrics.” (มาทบทวนตัวชี้วัดผลการดำเนินงานที่สำคัญกันนะครับ) |
| Benchmark | /ˈbentʃmɑːrk/ | มาตรฐานหรือตัวอ้างอิงสำหรับการเปรียบเทียบ | “We’re using industry benchmarks for comparison.” (เรากำลังใช้มาตรฐานของอุตสาหกรรมเพื่อเปรียบเทียบ) |
| Forecast | /ˈfɔːrkæst/ | การคาดการณ์หรือประมาณการล่วงหน้า | “Our forecast shows 15% growth next quarter.” (การคาดการณ์ของเราแสดงการเติบโต 15% ในไตรมาสหน้า) |
| Projection | /prəˈdʒekʃn/ | การคาดประมาณหรือการฉายภาพในอนาคต | “These projections are based on current trends.” (การคาดประมาณเหล่านี้อิงจากแนวโน้มปัจจุบัน) |
| Highlight | /ˈhaɪlaɪt/ | ประเด็นเด่นหรือส่วนสำคัญที่ต้องเน้น | “I’d like to highlight three key achievements.” (ผมอยากเน้นความสำเร็จที่สำคัญสามประการครับ) |
4. ศัพท์เกี่ยวกับปัญหาและการแก้ไข (Problems & Solutions)
| คำศัพท์ | สัทอักษรสากล (IPA) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค |
| Obstacle | /ˈɑːbstəkl/ | อุปสรรคหรือสิ่งกีดขวาง | “We’ve encountered several obstacles during implementation.” (เราเจออุปสรรคหลายอย่างระหว่างการนำไปใช้) |
| Challenge | /ˈtʃælɪndʒ/ | ความท้าทายหรือปัญหาที่ต้องแก้ไข | “The main challenge is budget constraints.” (ความท้าทายหลักคือข้อจำกัดด้านงบประมาณ) |
| Bottleneck | /ˈbɑːtlnek/ | จุดคอขวดหรือปัญหาที่ทำให้งานช้าลง | “The approval process is a major bottleneck.” (กระบวนการอนุมัติเป็นจุดคอขวดสำคัญ) |
| Workaround | /ˈwɜːrkəraʊnd/ | วิธีแก้ปัญหาชั่วคราวหรือทางเลือก | “We’ve found a workaround for the technical issue.” (เราหาวิธีแก้ไขชั่วคราวสำหรับปัญหาทางเทคนิคได้แล้ว) |
| Contingency | /kənˈtɪndʒənsi/ | แผนสำรองหรือทางเลือกในกรณีที่มีปัญหา | “Do we have a contingency plan if this fails?” (เรามีแผนสำรองไหมถ้าเรื่องนี้ล้มเหลว) |
| Mitigation | /ˌmɪtɪˈɡeɪʃn/ | การลดความรุนแรงหรือผลกระทบของปัญหา | “We need a risk mitigation strategy.” (เราต้องการกลยุทธ์ลดความเสี่ยง) |
| Resolution | /ˌrezəˈluːʃn/ | การแก้ไขหรือข้อยุติของปัญหา | “We reached a resolution that satisfies everyone.” (เราได้ข้อยุติที่ทุกคนพอใจแล้ว) |
| Root cause | /ruːt kɔːz/ | สาเหตุหลักหรือต้นตอของปัญหา | “Let’s identify the root cause of this issue.” (เรามาหาสาเหตุหลักของปัญหานี้กันเลย) |
5. ศัพท์เกี่ยวกับการทำงานร่วมกันและทีมเวิร์ก (Collaboration & Teamwork)
| คำศัพท์ | สัทอักษรสากล (IPA) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค |
| Synergy | /ˈsɪnərdʒi/ | พลังร่วมหรือผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำงานแยกกัน | “The synergy between our teams is impressive.” (พลังร่วมระหว่างทีมของเราน่าประทับใจมาก) |
| Collaboration | /kəˌlæbəˈreɪʃn/ | การทำงานร่วมกันหรือความร่วมมือ | “This project requires close collaboration across departments.” (โปรเจกต์นี้ต้องการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างแผนก) |
| Delegate | /ˈdelɪɡeɪt/ | การมอบหมายหน้าที่หรือความรับผิดชอบ | “We need to delegate tasks more effectively.” (เราต้องมอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น) |
| Coordinate | /koʊˈɔːrdɪneɪt/ | การประสานงานหรือจัดการให้ทำงานร่วมกันได้ | “Who will coordinate with the external vendors?” (ใครจะประสานงานกับผู้ขายภายนอกครับ) |
| Alignment | /əˈlaɪnmənt/ | ความสอดคล้องหรือการมุ่งเป้าหมายเดียวกัน | “We need better alignment between marketing and sales.” (เราต้องการความสอดคล้องที่ดีกว่านี้ระหว่างการตลาดและการขาย) |
| Input | /ˈɪnpʊt/ | ข้อมูลหรือความคิดเห็นที่นำเข้ามา | “We value everyone’s input on this decision.” (เราให้คุณค่ากับความคิดเห็นของทุกคนในการตัดสินใจนี้) |
| Feedback | /ˈfiːdbæk/ | ข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นเพื่อปรับปรุง | “I’d appreciate your feedback on the draft.” (ผมจะขอบคุณมากถ้าได้รับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างนี้) |
| Buy-in | /ˈbaɪ ɪn/ | การยอมรับหรือสนับสนุนแนวคิดหรือโครงการ | “We need management buy-in before proceeding.” (เราต้องการการสนับสนุนจากฝ่ายบริหารก่อนดำเนินการต่อ) |
6. ศัพท์เกี่ยวกับเวลาและกำหนดเวลา (Time & Deadlines)

| คำศัพท์ | สัทอักษรสากล (IPA) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค |
| Milestone | /ˈmaɪlstoʊn/ | เหตุการณ์สำคัญหรือจุดหมายระหว่างทาง | “We’ve reached an important milestone in the project.” (เราบรรลุเหตุการณ์สำคัญในโปรเจกต์แล้ว) |
| Timeline | /ˈtaɪmlaɪn/ | กำหนดเวลาหรือแผนที่แสดงลำดับเวลา | “Here’s the revised timeline for delivery.” (นี่คือกำหนดเวลาการส่งมอบที่แก้ไขแล้วครับ) |
| Deadline | /ˈdedlaɪn/ | เส้นตายหรือวันสุดท้ายที่ต้องทำให้เสร็จ | “The deadline is next Friday without exception.” (เดดไลน์คือศุกร์หน้าโดยไม่มีข้อยกเว้น) |
| Urgent | /ˈɜːrdʒənt/ | เร่งด่วนหรือต้องการความสนใจทันที | “This is an urgent matter that requires immediate attention.” (นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องการความสนใจทันที) |
| Priority | /praɪˈɔːrəti/ | ความสำคัญหรือลำดับความเร็ว | “Let’s prioritize tasks based on impact.” (มาจัดลำดับความสำคัญของงานตามผลกระทบกันนะครับ) |
| ETA | /ˌiː tiː ˈeɪ/ | เวลาถึงโดยประมาณ (Estimated Time of Arrival) | “What’s the ETA for the final report?” (รายงานฉบับสุดท้ายจะเสร็จเมื่อไหร่โดยประมาณครับ) |
| Extension | /ɪkˈstenʃn/ | การขยายเวลาหรือเลื่อนเดดไลน์ออกไป | “We’re requesting a two-week extension.” (เรากำลังขอขยายเวลาออกไปอีกสองสัปดาห์) |
| Overdue | /ˌoʊvərˈduː/ | เลยกำหนดหรือล่าช้าแล้ว | “Several action items are now overdue.” (รายการงานหลายอย่างเลยกำหนดไปแล้วตอนนี้) |
7. ศัพท์เกี่ยวกับงบประมาณและการเงิน (Budget & Finance)
| คำศัพท์ | สัทอักษรสากล (IPA) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค |
| Allocation | /ˌæləˈkeɪʃn/ | การจัดสรรหรือแบ่งทรัพยากร | “The budget allocation for Q4 has been approved.” (การจัดสรรงบประมาณสำหรับไตรมาสที่ 4 ได้รับการอนุมัติแล้ว) |
| Expenditure | /ɪkˈspendɪtʃər/ | รายจ่ายหรือค่าใช้จ่าย | “We need to reduce expenditure by 10%.” (เราต้องลดรายจ่ายลง 10%) |
| ROI | /ˌɑːr oʊ ˈaɪ/ | ผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment) | “What’s the expected ROI for this campaign?” (ผลตอบแทนจากการลงทุนที่คาดหวังสำหรับแคมเปญนี้คือเท่าไหร่ครับ) |
| Revenue | /ˈrevənuː/ | รายได้หรือรายรับ | “Our revenue increased by 20% this quarter.” (รายได้ของเราเพิ่มขึ้น 20% ในไตรมาสนี้) |
| Cost-effective | /ˌkɔːst ɪˈfektɪv/ | คุ้มค่าหรือประหยัดต้นทุน | “We need a more cost-effective solution.” (เราต้องการวิธีแก้ปัญหาที่คุ้มค่ากว่านี้) |
| Overhead | /ˈoʊvərhed/ | ค่าใช้จ่ายประจำหรือต้นทุนดำเนินงาน | “Let’s discuss ways to reduce overhead costs.” (มาคุยกันเรื่องวิธีลดค่าใช้จ่ายประจำนะครับ) |
| Break-even | /ˌbreɪk ˈiːvn/ | จุดคุ้มทุนหรือจุดที่รายได้เท่ากับรายจ่าย | “When do you expect to reach break-even?” (คุณคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนเมื่อไหร่) |
| Write-off | /ˈraɪt ɔːf/ | การตัดจำหน่ายหรือยกเลิกหนี้ | “We’ll need to write off these losses.” (เราจะต้องตัดจำหน่ายการขาดทุนเหล่านี้) |
8. ศัพท์เกี่ยวกับการเจรจาและข้อตกลง (Negotiation & Agreement)
| คำศัพท์ | สัทอักษรสากล (IPA) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค |
| Compromise | /ˈkɑːmprəmaɪz/ | การประนีประนอมหรือหาจุดกลาง | “We need to find a compromise that works for both parties.” (เราต้องหาจุดประนีประนอมที่เหมาะกับทั้งสองฝ่าย) |
| Negotiation | /nɪˌɡoʊʃiˈeɪʃn/ | การเจรจาหรือการต่อรอง | “The negotiation process took longer than expected.” (กระบวนการเจรจาใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้) |
| Terms | /tɜːrmz/ | เงื่อนไขหรือข้อตกลง | “Are these terms acceptable to you?” (เงื่อนไขเหล่านี้ยอมรับได้สำหรับคุณไหมครับ) |
| Clause | /klɔːz/ | ข้อความหรือมาตราในสัญญา | “We need to revise clause 3 of the agreement.” (เราต้องแก้ไขข้อ 3 ของข้อตกลง) |
| Concession | /kənˈseʃn/ | การยอมหรือการให้สิทธิพิเศษ | “We’re willing to make some concessions on price.” (เรายินดีที่จะยอมเรื่องราคาบ้าง) |
| Stalemate | /ˈsteɪlmeɪt/ | ทางตันหรือสถานการณ์ที่ไม่มีใครได้เปรียบ | “We’ve reached a stalemate in the negotiations.” (เราติดทางตันในการเจรจาแล้ว) |
| Win-win | /ˌwɪn ˈwɪn/ | สถานการณ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ | “Let’s aim for a win-win solution.” (เรามุ่งหาทางออกที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์กันนะครับ) |
| Deal-breaker | /ˈdiːl ˌbreɪkər/ | เงื่อนไขที่ไม่ยอมประนีประนอม ถ้าไม่ได้จะยกเลิกข้อตกลง | “The delivery timeline is a deal-breaker for us.” (กำหนดเวลาการส่งมอบเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ไม่ยอมประนีประนอมสำหรับเรา) |
หมายเหตุ: ตารางศัพท์เหล่านี้ครอบคลุมศัพท์การประชุมภาษาอังกฤษในหลากหลายบริบท ตั้งแต่การบริหารจัดการ การตัดสินใจ ไปจนถึงการเจรจาและการเงิน การนำศัพท์เหล่านี้ไปฝึkฝนและใช้ในสถานการณ์จริงจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความเป็นมืออาชีพในการประชุมภาษาอังกฤษของคุณอย่างมาก
II. คลังศัพท์และวลีที่ใช้ได้จริงในทุกสถานการณ์
1. การเปิดประชุมและทักทาย (Opening & Greetings)
“Good morning/afternoon, everyone. Thank you for joining us today.”
คำแปลไทย: สวัสดีตอนเช้า/บ่ายครับทุกคน ขอบคุณที่มาร่วมประชุมในวันนี้
บริบทการใช้งาน: ใช้เปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ แสดงความเคารพและต้อนรับผู้เข้าร่วม เหมาะกับทุกระดับความเป็นทางการ สื่อถึงความเป็นมืออาชีพและความเอาใจใส่
ตัวอย่างประโยค: “Good morning, everyone. Thank you for joining us today despite your busy schedules.” (สวัสดีตอนเช้าครับทุกคน ขอบคุณที่มาร่วมประชุมวันนี้แม้จะมีตารางงานที่แน่น)
“Let’s get started, shall we?”
คำแปลไทย: เริ่มกันเลยดีไหมครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้เมื่อต้องการเริ่มประชุมอย่างนุ่มนวลและเป็นกันเอง เหมาะกับการประชุมที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย สื่อถึงความพร้อมและความเป็นมิตร
ตัวอย่างประโยค: “Everyone’s here now. Let’s get started, shall we?” (ทุกคนมาครบแล้วนะ เริ่มกันเลยดีไหมครับ)
2. การนำเสนอวาระและโครงสร้างการประชุม (Presenting Agenda)
“Today’s agenda includes three main items: project updates, budget review, and next quarter’s planning.”
คำแปลไทย: วาระวันนี้มีสามหัวข้อหลัก ได้แก่ อัปเดตโปรเจกต์ ทบทวนงบประมาณ และการวางแผนไตรมาสหน้า
บริบทการใช้งาน: ใช้แจ้งวาระการประชุมอย่างชัดเจนและเป็นระบบ เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการ สื่อถึงการเตรียมตัวที่ดีและความเป็นมืออาชีพ
ตัวอย่างประโยค: “Before we dive in, today’s agenda includes three main items: project updates, budget review, and next quarter’s planning.” (ก่อนเริ่มเข้าเรื่อง วาระวันนี้มีสามหัวข้อหลัก อัปเดตโปรเจกต์ ทบทวนงบประมาณ และวางแผนไตรมาสหน้า)
“We aim to wrap up by 3 PM, so let’s keep our discussions focused.”
คำแปลไทย: เราตั้งเป้าจะจบภายใน 3 โมงเย็น ดังนั้นขอให้เราพูดคุยให้ตรงประเด็นนะครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้เตือนให้ผู้เข้าร่วมใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับการประชุมที่มีเวลาจำกัด สื่อถึงความเป็นมืออาชีพและการจัดการเวลาที่ดี
ตัวอย่างประโยค: “We have a lot to cover today. We aim to wrap up by 3 PM, so let’s keep our discussions focused.” (เรามีเรื่องให้คุยเยอะวันนี้ เราตั้งเป้าจะจบภายใน 3 โมงเย็น ดังนั้นขอให้พูดคุยกันตรงประเด็นนะครับ)
3. การขออนุญาตพูดและแสดงความคิดเห็น (Asking Permission to Speak)
“May I add something here?”
คำแปลไทย: ขอเพิ่มเติมอะไรตรงนี้หน่อยได้ไหมครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้ขออนุญาตแทรกความคิดเห็นอย่างสุภาพ เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการหรือเมื่อคนอื่นกำลังพูดอยู่ สื่อถึงความเคารพและมารยาท
ตัวอย่างประโยค: “That’s an interesting point. May I add something here based on our recent findings?” (นั่นเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก ขอเพิ่มเติมอะไรตรงนี้หน่อยได้ไหมครับ จากผลการศึกษาล่าสุดของเรา)
“If I could jump in for a moment…”
คำแปลไทย: ขอแทรกสักครู่นะครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้เมื่อต้องการแสดงความคิดเห็นเร่งด่วนหรือเพิ่มเติมข้อมูลสำคัญ เหมาะกับการประชุมที่มีบรรยากาศผ่อนคลายกว่า สื่อถึงความมั่นใจแต่ยังคงสุภาพ
ตัวอย่างประโยค: “If I could jump in for a moment, I think we’re missing a crucial detail about the timeline.” (ขอแทรกสักครู่นะครับ ผมคิดว่าเรากำลังพลาดรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับไทม์ไลน์อยู่)
“I’d like to build on what Sarah just mentioned.”
คำแปลไทย: ผมอยากต่อยอดจากที่คุณซาร่าห์เพิ่งพูดไปครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้เมื่อต้องการเสริมความคิดเห็นของผู้อื่นด้วยข้อมูลเพิ่มเติม เหมาะกับทุกระดับความเป็นทางการ สื่อถึงการฟังที่ดีและความร่วมมือ
ตัวอย่างประโยค: “I’d like to build on what Sarah just mentioned about customer feedback—our data shows similar patterns.” (ผมอยากต่อยอดจากที่คุณซาร่าห์เพิ่งพูดเกี่ยวกับฟีดแบ็กจากลูกค้า ข้อมูลของเราก็แสดงแพทเทิร์นที่คล้ายกัน)
4. การแสดงความเห็นด้วยและสนับสนุน (Agreeing & Supporting)
“I completely agree with that approach.”
คำแปลไทย: ผมเห็นด้วยกับแนวทางนั้นอย่างเต็มที่เลยครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้แสดงความเห็นด้วยอย่างชัดเจนและเต็มที่ เหมาะกับทุกระดับความเป็นทางการ สื่อถึงความมั่นใจและการสนับสนุนอย่างแข็งขัน
ตัวอย่างประโยค: “I completely agree with that approach—it aligns perfectly with our long-term strategy.” (ผมเห็นด้วยกับแนวทางนั้นอย่างเต็มที่ มันสอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของเราอย่างลงตัวเลย)
“That makes a lot of sense.”
คำแปลไทย: นั่นมันสมเหตุสมผลดีนะครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้แสดงความเห็นด้วยอย่างนุ่มนวลและเป็นกันเอง เหมาะกับการประชุมที่ผ่อนคลาย สื่อถึงการฟังที่ดีและความเข้าใจ
ตัวอย่างประโยค: “After hearing your explanation, that makes a lot of sense to me now.” (หลังจากฟังคำอธิบายของคุณแล้ว ตอนนี้มันสมเหตุสมผลดีสำหรับผมแล้วครับ)
“You’ve raised an excellent point.”
คำแปลไทย: คุณยกประเด็นที่ดีมากขึ้นมาเลยครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้ชื่นชมและเห็นด้วยกับความคิดเห็นของผู้อื่น เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการ สื่อถึงความเคารพและการเป็นผู้ฟังที่ดี
ตัวอย่างประโยค: “You’ve raised an excellent point about resource allocation that we hadn’t considered.” (คุณยกประเด็นที่ดีมากขึ้นมาเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรที่เรายังไม่ได้คิดถึง)
5. ศิลปะการปฏิเสธและแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างนุ่มนวล (Disagreeing Politely)
“I see your point, but have we considered…”
คำแปลไทย: ผมเข้าใจประเด็นของคุณนะครับ แต่เราได้พิจารณาเรื่อง… แล้วหรือยัง
บริบทการใช้งาน: ใช้แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างนุ่มนวลที่สุด เหมาะกับทุกสถานการณ์ สื่อถึงความเคารพและการเปิดใจรับฟัง
ตัวอย่างประโยค: “I see your point about cutting costs, but have we considered the long-term impact on quality?” (ผมเข้าใจประเด็นของคุณเรื่องการลดต้นทุนนะครับ แต่เราได้พิจารณาผลกระทบระยะยาวต่อคุณภาพแล้วหรือยัง)
“That’s one way to look at it. However, from my perspective…”
คำแปลไทย: นั่นเป็นมุมมองหนึ่งนะครับ แต่จากมุมมองของผม…
บริบทการใช้งาน: ใช้เสนอมุมมองที่แตกต่างโดยไม่โจมตีความคิดเห็นเดิม เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการปานกลาง สื่อถึงความเคารพและความมั่นใจ
ตัวอย่างประโยค: “That’s one way to look at it. However, from my perspective as the project lead, we need more time for testing.” (นั่นเป็นมุมมองหนึ่งนะครับ แต่จากมุมมองของผมในฐานะหัวหน้าโปรเจกต์ เราต้องการเวลาในการทดสอบมากกว่านี้)
“I’m afraid I have to disagree on this particular point.”
คำแปลไทย: ผมเกรงว่าจะต้องไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้โดยเฉพาะครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจนแต่ยังคงสุภาพ เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการ สื่อถึงความมั่นใจและความตรงไปตรงมาอย่างมืออาชีพ
ตัวอย่างประโยค: “I’m afraid I have to disagree on this particular point—the data doesn’t support that conclusion.” (ผมเกรงว่าจะต้องไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้โดยเฉพาะครับ ข้อมูลไม่ได้สนับสนุนข้อสรุปนั้น)
6. การขอให้ชี้แจงและยืนยันความเข้าใจ (Clarifying & Confirming)
“Could you elaborate on that a bit more?”
คำแปลไทย: ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยได้ไหมครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้ขอให้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างสุภาพ เหมาะกับทุกระดับความเป็นทางการ สื่อถึงความสนใจและการฟังอย่างตั้งใจ
ตัวอย่างประโยค: “That’s an interesting solution. Could you elaborate on that a bit more, especially regarding implementation?” (นั่นเป็นวิธีแก้ปัญหาที่น่าสนใจนะครับ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยได้ไหม โดยเฉพาะเรื่องการนำไปใช้จริง)
“Just to make sure I understand correctly, you’re suggesting that…”
คำแปลไทย: เพื่อให้แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกนะครับ คุณกำลังแนะนำว่า…
บริบทการใช้งาน: ใช้ยืนยันความเข้าใจก่อนตอบสนอง เหมาะกับทุกสถานการณ์ สื่อถึงความรอบคอบและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างประโยค: “Just to make sure I understand correctly, you’re suggesting that we delay the launch by two weeks?” (เพื่อให้แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกนะครับ คุณกำลังแนะนำว่าเราควรเลื่อนการเปิดตัวออกไปอีกสองสัปดาห์ใช่ไหม)
“Let me recap to ensure we’re all on the same page.”
คำแปลไทย: ขอสรุปอีกครั้งนะครับ เพื่อให้แน่ใจว่าเราเข้าใจตรงกัน
บริบทการใช้งาน: ใช้สรุปประเด็นสำคัญเพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการ สื่อถึงความเป็นผู้นำและการจัดการที่ดี
ตัวอย่างประโยค: “We’ve covered a lot today. Let me recap to ensure we’re all on the same page before we move forward.” (วันนี้เราคุยกันหลายเรื่อง ขอสรุปอีกครั้งนะครับ เพื่อให้แน่ใจว่าเราเข้าใจตรงกันก่อนไปต่อ)
7. การจัดการเวลาและเปลี่ยนหัวข้อ (Managing Time & Transitioning)
“We’re running a bit behind schedule, so let’s move to the next item.”
คำแปลไทย: เรากำลังช้ากว่ากำหนดไปหน่อย ขอเปลี่ยนไปข้อต่อไปกันเลยนะครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้เตือนเรื่องเวลาและเปลี่ยนหัวข้ออย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับการประชุมที่มีเวลาจำกัด สื่อถึงการจัดการที่ดีและความเป็นมืออาชีพ
ตัวอย่างประโยค: “This is a valuable discussion, but we’re running a bit behind schedule, so let’s move to the next item and revisit this later if needed.” (นี่เป็นการพูดคุยที่มีคุณค่านะครับ แต่เรากำลังช้ากว่ากำหนดไปหน่อย ขอเปลี่ยนไปข้อต่อไปกันเลย แล้วกลับมาคุยกันใหม่ภายหลังถ้าจำเป็น)
“Shall we table this discussion and come back to it later?”
คำแปลไทย: เราเลื่อนเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วกลับมาคุยกันทีหลังดีไหมครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้เสนอให้เลื่อนการพูดคุยประเด็นที่ใช้เวลานานออกไปก่อน เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการ สื่อถึงความยืดหยุ่นและการจัดการที่ดี
ตัวอย่างประโยค: “We don’t seem to have enough information to decide now. Shall we table this discussion and come back to it later?” (ดูเหมือนเรายังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะตัดสินใจตอนนี้ เราเลื่อนเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วกลับมาคุยกันทีหลังดีไหมครับ)
8. การมอบหมายงานและกำหนดขั้นตอนต่อไป (Assigning Tasks & Next Steps)
“John, could you take ownership of this action item?”
คำแปลไทย: คุณจอห์น ช่วยรับผิดชอบงานนี้ได้ไหมครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้มอบหมายงานอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการ สื่อถึงความไม่มั่นใจและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างประโยค: “John, could you take ownership of this action item and report back by next Friday?” (คุณจอห์น ช่วยรับผิดชอบงานนี้แล้วรายงานกลับมาภายในศุกร์หน้าได้ไหมครับ)
“What’s our deadline for this deliverable?”
คำแปลไทย: เราตั้งเดดไลน์สำหรับงานนี้ไว้เมื่อไหร่ครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้ถามเกี่ยวกับกำหนดเวลาอย่างชัดเจน เหมาะกับทุกระดับความเป็นทางการ สื่อถึงความรับผิดชอบและการจัดการเวลา
ตัวอย่างประโยค: “This sounds achievable. What’s our deadline for this deliverable, and who needs to approve it?” (ฟังดูทำได้นะครับ เราตั้งเดดไลน์สำหรับงานนี้ไว้เมื่อไหร่ และใครต้องเป็นคนอนุมัติ)
“Let’s schedule a follow-up meeting to review progress.”
คำแปลไทย: เรานัดประชุมครั้งต่อไปเพื่อติดตามความคืบหน้ากันนะครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้เสนอให้มีการติดตามผลอย่างเป็นระบบ เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการ สื่อถึงการวางแผนที่ดีและความรับผิดชอบ
ตัวอย่างประโยค: “Great, we have clear action items now. Let’s schedule a follow-up meeting to review progress in two weeks.” (ดีมากครับ เรามีรายการงานที่ชัดเจนแล้ว มานัดประชุมครั้งต่อไปเพื่อติดตามความคืบหน้าในอีกสองสัปดาห์นะครับ)
9. การปิดประชุม (Closing)
“Before we wrap up, does anyone have any final questions or comments?”
คำแปลไทย: ก่อนปิดประชุม มีใครมีคำถามหรือความเห็นเพิ่มเติมอีกไหมครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นครั้งสุดท้าย เหมาะกับทุกระดับความเป็นทางการ สื่อถึงความเคารพและการเป็นผู้ฟังที่ดี
ตัวอย่างประโยค: “We’ve covered everything on the agenda. Before we wrap up, does anyone have any final questions or comments?” (เราคุยครบทุกวาระแล้ว ก่อนปิดประชุม มีใครมีคำถามหรือความเห็นเพิ่มเติมอีกไหมครับ)
“Thank you all for your time and valuable input today.”
คำแปลไทย: ขอบคุณทุกคนสำหรับเวลาและความคิดเห็นที่มีค่าในวันนี้นะครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้ขอบคุณผู้เข้าร่วมอย่างจริงใจก่อนปิดประชุม เหมาะกับทุกสถานการณ์ สื่อถึงความเคารพและความซาบซึ้ง
ตัวอย่างประโยค: “This has been a productive session. Thank you all for your time and valuable input today.” (วันนี้เป็นการประชุมที่มีประสิทธิภาพมากครับ ขอบคุณทุกคนสำหรับเวลาและความคิดเห็นที่มีค่า)
“I’ll send out the minutes by end of day tomorrow.”
คำแปลไทย: ผมจะส่งรายงานการประชุมภายในสิ้นวันพรุ่งนี้นะครับ
บริบทการใช้งาน: ใช้แจ้งกำหนดเวลาการส่งเอกสารติดตามผล เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการ สื่อถึงความรับผิดชอบและการติดตามที่ดี
ตัวอย่างประโยค: “I’ll send out the minutes by end of day tomorrow, including all action items and deadlines.” (ผมจะส่งรายงานการประชุมภายในสิ้นวันพรุ่งนี้ รวมถึงรายการงานทั้งหมดและกำหนดเวลา)
III. คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับการประชุมภาษาอังกฤษ
1. “Minutes of Meeting” (MOM) คืออะไร และแตกต่างจาก “Agenda” อย่างไร?
Agenda คือวาระการประชุม หรือแผนการที่กำหนดไว้ว่าจะพูดคุยเรื่องอะไรบ้างก่อนการประชุม เปรียบเหมือนแผนที่บอกว่าเราจะไปทางไหนและหยุดจุดไหนบ้าง ส่วน Minutes of Meeting (MOM) คือรายงานการประชุม หรือบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในระหว่างการประชุมหลังจากประชุมเสร็จแล้ว ครอบคลุมประเด็นที่พูดคุย ข้อตกลงที่ได้ รายการงานที่มอบหมาย และกำหนดเวลา ง่ายๆ คือ Agenda เป็นแผนล่วงหน้า ส่วน MOM เป็นบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
2. มีวลีประเภทไหนบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาดในการประชุมที่เป็นทางการ?
วลีหลายประเภทที่อาจใช้ได้ในสถานการณ์ไม่เป็นทางการ แต่ไม่เหมาะกับการประชุมทางธุรกิจอย่างยิ่ง คุณควรหลีกเลี่ยงดังนี้
Slang และ Idioms ที่ไม่เป็นสากล เช่น “Let’s circle back” หรือ “touch base” ซึ่งคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาอาจไม่เข้าใจ ควรใช้ “Let’s revisit this topic” หรือ “Let’s connect” แทน
Phrasal Verbs ที่ไม่เป็นทางการ เช่น “figure out” “mess up” ควรใช้ “determine” “make an error” แทนในการประชุมที่เป็นทางการ
วลีที่แสดงความไม่แน่นอนมากเกินไป เช่น “I guess,” “Maybe,” “Kind of” ซึ่งทำให้คุณดูไม่มั่นใจ ควรใช้ “I believe,” “It’s likely that,” “To some extent” แทน
การเลือกใช้คำที่เหมาะสมจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือมากขึ้น
3. ใน “ประชุมประจําเดือนภาษาอังกฤษ” จำเป็นต้องสรุปทุกเรื่องที่พูดคุยกันหรือไม่?
ไม่จำเป็นต้องสรุปทุกรายละเอียดที่พูดคุยกัน แต่ควรเน้นสรุปเฉพาะ Key Decisions (การตัดสินใจที่สำคัญ) และ Action Items (รายการงานที่ต้องทำ) เท่านั้น การสรุปที่ดีควรตอบคำถามพื้นฐานสามข้อ ได้แก่ เราตกลงอะไรกันบ้าง (What was decided?), ใครรับผิดชอบอะไร (Who is responsible for what?), และเมื่อไหร่ต้องเสร็จ (When is the deadline?) การสรุปแบบนี้จะช่วยให้ทุกคนมีความชัดเจนและสามารถติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่จะต้องอ่านรายงานยาวเหยียดที่มีรายละเอียดมากเกินไป
4. การใช้ภาษาในการประชุมแบบตัวต่อตัว (Face-to-Face) กับการประชุมออนไลน์ (Virtual Meeting) แตกต่างกันมากน้อยเพียงใด?
การประชุมออนไลน์ต้องการการสื่อสารที่ชัดเจนและตรงไปตรงมามากกว่า เพราะขาดภาษากายและสายตาที่ช่วยสื่อความหมาย คุณควรใช้ภาษาที่ชัดเจนขึ้น เช่น แทนที่จะพูดแค่ “This” ควรระบุชัดว่า “This proposal” หรือ “This section of the report” นอกจากนี้ ความสำคัญของวลีที่ใช้เช็คความเข้าใจก็เพิ่มขึ้นมาก เช่น “Can everyone hear me clearly?” (ทุกคนได้ยินผมชัดไหมครับ) หรือ “Does that make sense to everyone?” (มันเข้าใจง่ายสำหรับทุกคนไหมครับ) การหยุดพักเพื่อรอคำตอบหรือคำถามก็สำคัญมากขึ้น เพราะในการประชุมออนไลน์ การสื่อสารซ้อนกันทำให้เกิดความสับสนได้ง่าย
ทุกวลี ทุกเทคนิค และทุกกลยุทธ์ที่เราได้แบ่งปันในบทความนี้ล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือการเปลี่ยนคุณจากผู้ที่นั่งเงียบในห้องประชุม ให้กลายเป็นผู้ที่มั่นใจในการแสดงความคิดเห็น สามารถชี้นำการสนทนา และสร้างอิทธิพลต่อการตัดสินใจที่สำคัญได้ การมีคลังศัพท์การประชุมภาษาอังกฤษที่หลากหลายไม่ใช่เพียงแค่การท่องจำวลี แต่คือการเข้าใจว่าเมื่อไหร่และอย่างไรควรใช้มันให้เหมาะสม
การเตรียมตัวก่อนประชุม การเลือกใช้วลีที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ การแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างมืออาชีพ และการปิดประชุมด้วยแอคชันไอเท็มที่ชัดเจน ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่เพียงแค่ “เข้าร่วม” การประชุม แต่จะกลายเป็นผู้ “ขับเคลื่อน” ให้การประชุมนั้นๆ บรรลุเป้าหมายได้อย่างแท้จริง
ตอนนี้คุณมีเครื่องมือครบมือแล้ว ขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการเลือก 1-2 วลีใหม่จากบทความนี้ไปลองใช้ในการประชุมครั้งหน้า สังเกตปฏิกิริยาของเพื่อนร่วมงานและความมั่นใจของคุณเองที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นจากการก้าวแรกเล็กๆ และวันนี้คือวันที่เหมาะสมที่สุดที่จะเริ่มต้น
