Passive Voice Past Perfect เป็นโครงสร้างไวยากรณ์ที่คนไทยมักสับสน แต่จริงๆ แล้วเข้าใจง่ายกว่าที่คิด! บทความนี้จะพาคุณเชี่ยวชาญการใช้งานแบบครบครัน ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน ตัวอย่างจากชีวิตจริง ไปจนถึงเคล็ดลับระดับมืออาชีพ พร้อมข้อควรระวังที่จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไป อ่านจบแล้วรับรองใช้ได้อย่างมั่นใจ
I. Past Perfect Passive คืออะไร และใช้เมื่อไหร่?
Past Perfect Passive Voice คือโครงสร้างไวยากรณ์ที่ใช้เล่าเหตุการณ์ที่ “ถูกทำให้เสร็จสิ้นไปแล้ว” ก่อนที่อีกเหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้นในอดีต โดยเน้นที่ “สิ่งที่ถูกกระทำ” มากกว่า “ผู้กระทำ”
- แก่นแท้ที่ต้องรู้: ใช้พูดถึง “การกระทำที่ถูกทำเสร็จไปแล้ว” ก่อนอีกเหตุการณ์ในอดีต
ลองนึกภาพเหตุการณ์ 2 อย่างในอดีต เหตุการณ์ที่ใช้ passive voice past perfect คือเหตุการณ์ที่ #1 ที่เกิดขึ้นและจบไปก่อนที่เหตุการณ์ที่ #2 จะเริ่ม โดยเน้นที่ “สิ่งที่ถูกกระทำ” มากกว่า “ผู้กระทำ” ตัวอย่างง่ายๆ คือ “รถถูกซ่อมเสร็จแล้วก่อนที่เขาจะมาถึง” ซึ่งจุดสำคัญอยู่ที่การซ่อมรถที่เสร็จสิ้นไปแล้ว ไม่ใช่ว่าใครเป็นคนซ่อม
การใช้โครงสร้างนี้ช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นและจบลงก่อนอีกสิ่งหนึ่งในอดีต โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงผู้กระทำเสมอไป
- หัวใจสำคัญของการใช้: เมื่อ “ผู้ถูกกระทำ” สำคัญกว่า “ผู้กระทำ”
เราใช้โครงสร้างนี้เมื่อเราอยากจะโฟกัสที่ “ผลลัพธ์” หรือ “สิ่งที่ถูกกระทำ” มากกว่าจะไปสนใจว่า “ใคร” เป็นคนทำ ซึ่งทำให้ประโยคดูเป็นกลางและเป็นทางการมากขึ้น
II. โครงสร้าง Past Perfect Passive (The Structure)
รูปแบบ | โครงสร้าง | ตัวอย่าง |
ประโยคบอกเล่า | Subject + had been + V.3 | The report had been submitted before the deadline. |
ประโยคปฏิเสธ | Subject + hadn’t been + V.3 | The email hadn’t been sent when he arrived. |
ประโยคคำถาม | Had + Subject + been + V.3? | Had the documents been reviewed before the meeting? |
1. รูปแบบที่ 1: ประโยคบอกเล่า (Affirmative Form)
สูตร: Subject + had been + V.3
ตัวอย่าง: The house had been painted before we moved in. (บ้านถูกทาสีเสร็จแล้วก่อนที่เราจะย้ายเข้ามา)
2. รูปแบบที่ 2: ประโยคปฏิเสธ (Negative Form)
สูตร: Subject + hadn’t been + V.3
ตัวอย่าง: The problem hadn’t been solved when the manager returned. (ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขเมื่อผู้จัดการกลับมา)
3. รูปแบบที่ 3: ประโยคคำถาม (Interrogative Form)
สูตร: Had + Subject + been + V.3?
ตัวอย่าง: Had the invitations been sent before the party was cancelled? (การ์ดเชิญถูกส่งไปแล้วหรือยังก่อนที่งานปาร์ตี้จะถูกยกเลิก?)
III. ตัวอย่างการใช้งานจริง Past Perfect Passive
1. เปรียบเทียบ Active vs. Passive แบบหมัดต่อหมัด
Active Voice (Past Perfect) | Passive Voice (Past Perfect) |
Someone had completed the project before Monday. (มีคนทำโปรเจกต์เสร็จก่อนวันจันทร์) | The project had been completed before Monday. (โปรเจกต์ถูกทำเสร็จก่อนวันจันทร์) |
They had repaired the computer before I came back. (พวกเขาซ่อมคอมพิวเตอร์เสร็จก่อนที่ฉันจะกลับมา) | The computer had been repaired before I came back. (คอมพิวเตอร์ถูกซ่อมเสร็จแล้วก่อนที่ฉันจะกลับมา) |
2. ตัวอย่างจากสถานการณ์ต่างๆ เพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ในการเล่าเรื่อง เราใช้ past perfect passive เพื่อสร้างความชัดเจนในลำดับเหตุการณ์ เช่น “The dinner had been prepared when the guests arrived” (อาหารเย็นถูกเตรียมเสร็จแล้วเมื่อแขกมาถึง) ซึ่งช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจว่าการเตรียมอาหารเสร็จสิ้นก่อนแขกมาถึง
ในการรายงานการทำงาน โครงสร้างนี้ช่วยให้รายงานดูเป็นทางการ เช่น “All necessary documents had been reviewed before the contract was signed” (เอกสารที่จำเป็นทั้งหมดถูกตรวจสอบแล้วก่อนการลงนามในสัญญา) ซึ่งเน้นที่กระบวนการที่เสร็จสิ้นแล้วมากกว่าผู้ที่ทำ
IV. จุดที่คนไทยมักสับสนและวิธีแก้ไข
- ข้อผิดพลาดที่ 1: สับสนกับ Past Simple Passive
ประโยคที่ผิด: “The letter was sent before he arrived.” (เมื่อต้องการเน้นว่าส่งจดหมายก่อนเขามาถึง)
ประโยคที่ถูก: “The letter had been sent before he arrived.”
ความแตกต่าง: Past Simple Passive บอกเพียงว่าเกิดขึ้นในอดีต แต่ passive voice past perfect บอกว่าเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่นในอดีตอย่างชัดเจน
- ข้อผิดพลาดที่ 2: สับสนกับ Present Perfect Passive
ประโยคที่สับสน: “The work has been finished before the deadline.” (เมื่อพูดถึงงานที่เสร็จก่อนกำหนดในอดีต)
ประโยคที่ถูก: “The work had been finished before the deadline.”
กรอบเวลาเป็นกุณแจ: Present Perfect เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน ส่วน Past Perfect เป็นเรื่องในอดีตล้วนๆ
- เทคนิคการแปลเป็นไทยให้เป็นธรรมชาติ
ประโยคภาษาอังกฤษ: “The cake had been eaten before I arrived.” แปลตรงตัว: “เค้กถูกกินก่อนที่ฉันจะมาถึง”
แปลธรรมชาติ: “เค้กหมดไปแล้วตอนที่ฉันมาถึง”
การแปลแบบธรรมชาติทำให้ประโยคไทยฟังเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยใช้คำว่า “…ไปแล้ว” แทน “ถูก”
V. แบบฝึกหัดทดสอบความเข้าใจพร้อมเฉลย
แบบฝึกหัด
รูปแบบที่ 1: เติมคำให้ถูกต้อง
- The homework _______ (finish) before the teacher arrived.
- All tickets _______ (sell) by the time we got to the theater.
- The message _______ (not/deliver) when the meeting started.
รูปแบบที่ 2: แปลประโยคต่อไปนี้ 4. รายงานถูกส่งเสร็จแล้วก่อนกำหนดเวลา 5. หนังสือยังไม่ถูกพิมพ์เมื่อผู้เขียนเสียชีวิต
เฉลยพร้อมคำอธิบาย
- had been finished – ใช้ past perfect passive เพราะการทำการบ้านเสร็จสิ้นก่อนที่อาจารย์จะมาถึง
- had been sold – การขายตั๋วเสร็จสิ้นก่อนที่เรามาถึงโรงละคร
- hadn’t been delivered – ข้อความยังไม่ถูกส่งเมื่อการประชุมเริ่ม (รูปแบบปฏิเสธ)
- The report had been submitted before the deadline.
- The book hadn’t been printed when the author died.
VI. คลังความรู้เพิ่มเติม: ถาม-ตอบทุกข้อสงสัย
1. คำว่า “been” ในโครงสร้างนี้ทำหน้าที่อะไรกันแน่ในทางไวยากรณ์?
“Been” คือ V.3 ของ “to be” ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง Perfect และเป็นตัวบอกความเป็น Passive ร่วมกับ “had” ในการสร้างกรอบเวลาที่เกิดขึ้นก่อนจุดอ้างอิงในอดีต
2. Past Perfect Passive แตกต่างจาก Future Perfect Passive ในเชิงแนวคิดอย่างไร?
Past Perfect มองย้อนไปในอดีต เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปแล้วก่อนจุดหนึ่งในอดีต ส่วน Future Perfect มองไปข้างหน้าในอนาคต พูดถึงสิ่งที่จะถูกทำให้เสร็จก่อนจุดหนึ่งในอนาคต
3. เราสามารถใช้ “by…” เพื่อบอกผู้กระทำในประโยค Past Perfect Passive ได้เสมอไปหรือไม่?
ได้ แต่ไม่จำเป็น และส่วนใหญ่เราจะละไว้ เพราะจุดประสงค์ของ Passive Voice คือการไม่เน้นผู้กระทำ เมื่อใส่ “by…” เข้าไปจะทำให้เสียจุดประสงค์นี้
4. นอกจากใช้เล่าเหตุการณ์ในอดีตแล้ว Past Perfect Passive ยังพบได้ในไวยากรณ์ประเภทไหนอีกบ้าง?
Past perfect passive ยังพบได้ในสองกรณีสำคัญ: ใน Reported Speech เช่น “He said the letter had been sent” (เขาบอกว่าจดหมายถูกส่งไปแล้ว) และใน If-Clause แบบที่ 3 เช่น “If the documents had been prepared earlier, we wouldn’t have been late” (หากเอกสารถูกเตรียมไว้เร็วกว่านี้ เราก็จะไม่สาย)
สรุปแล้ว หัวใจของ passive voice past perfect คือการเล่าถึงการกระทำที่ “ถูกทำให้จบไปแล้ว” ก่อนที่จะมีอีกสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นตามมาในอดีต ซึ่งเป็นความสามารถที่ไม่มี Tense อื่นทำได้เหมือน โครงสร้างนี้ช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างแม่นยำและเป็นระบบ โดยเฉพาะในงานเขียนที่เป็นทางการ เพียงจำหลักการนี้ไว้ คุณก็จะใช้ Tense นี้ได้อย่างมั่นใจ และสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น