คุณเคยสงสัยไหมว่า Present Perfect Continuous Passive ใช้ยังไง? ความจริงแล้ว Tense นี้มีอยู่จริงตามทฤษฎี แต่ไม่มีใครใช้ในชีวิตจริง! มาค้นหาเหตุผลที่เจ้าของภาษาหลีกเลี่ยงการใช้ “been being” และเรียนรู้ 3 ทางเลือกที่ดีกว่าที่จะทำให้การสื่อสารของคุณเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากความสับสนสู่ความเข้าใจที่ชัดเจน พร้อมตัวอย่างและคำอธิบายที่เข้าใจง่าย
I. Present Perfect Continuous Passive คืออะไร?
หลายคนคงเคยสงสัยเมื่อเจอ present perfect continuous passive ในตำราไวยากรณ์ว่า “มันมีจริงหรือไม่” และ “ใช้ยังไงกันแน่” ความจริงแล้ว Tense นี้มีอยู่จริงตามหลักไวยากรณ์ แต่ไม่มีใครใช้ในการสื่อสารจริง เหตุผลง่ายๆ คือมันฟังดูแปลกๆ และมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่ามากมาย การเข้าใจ present perfect continuous passive จึงไม่ใช่เพื่อนำไปใช้ แต่เพื่อให้รู้ว่าทำไมเราควรหลีกเลี่ยงและเลือกใช้โครงสร้างอื่นแทน
II. โครงสร้างและตัวอย่างที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
- เปิดสูตรโครงสร้าง Passive Voice ของ Present Perfect Continuous
Subject + has/have + been + being + Past Participle (V.3)
โครงสร้างนี้เกิดจากการรวม Present Perfect Continuous กับ Passive Voice เข้าด้วยกัน
- วิเคราะห์ตัวอย่างประโยค “ในตำรา” ทีละส่วน
มาดูตัวอย่างประโยคที่อาจพบในตำราไวยากรณ์: “This road has been being repaired for a month” (ถนนสายนี้ถูกซ่อมแซมมาเป็นเดือนแล้ว)
ถ้าแยกส่วนประกอบจะได้ว่า This road คือประธาน has been being คือ verb phrase ของ passive voice perfect continuous repaired คือ past participle และ for a month คือ time phrase ที่บอกระยะเวลา
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงทฤษฎีบนกระดาษเท่านั้น ในการใช้งานจริงไม่มีใครพูดแบบนี้เพราะฟังดูผิดธรรมชาติมาก
III. ทำไมเจ้าของภาษาจึงหลีกเลี่ยงการใช้ Tense นี้อย่างเด็ดขาด?
เหตุผลที่ 1: ฟังดูเหมือน “คำที่พูดแล้วลิ้นพันกัน”
คำว่า “been being” มีเสียงที่คล้ายกันซ้ำติดกัน ทำให้พูดยากและฟังแล้วรู้สึกเยิ่นเย้อ เปรียบเสมือนการพยายามพูดคำว่า “แปดปลาแปลกแปลงปลิดปลิว” ติดกันหลายครั้ง ลิ้นเราจะติดและสมองจะพยายามหลีกเลี่ยงโดยอัตโนมัติ
เหตุผลที่ 2: ทำให้การสื่อสารยากขึ้นโดยไม่จำเป็น
เป้าหมายหลักของภาษาคือการสื่อสารให้เข้าใจ การใช้ passive voice perfect continuous ทำให้ประโยคซับซ้อนเกินความจำเป็น เมื่อมีทางเลือกอื่นที่ชัดเจนกว่า ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้ผู้ฟังต้องคิดหนักเพื่อเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อ
IV. 3 โครงสร้างทางเลือกที่ใช้ได้จริงและเป็นธรรมชาติกว่า
1. ทางเลือกที่ 1: Present Perfect Passive
โครงสร้าง: Subject + has/have + been + Past Participle
ใช้เมื่อต้องการเน้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแล้วและยังคงมีผลต่อปัจจุบัน เช่น “This road has been repaired” (ถนนสายนี้ได้รับการซ่อมแซมแล้ว) ฟังดูธรรมชาติและเข้าใจง่าย
แทนที่จะพูด “This road has been being repaired for a month” เราสามารถพูดได้ว่า “This road has been repaired recently” ซึ่งสื่อความหมายได้ชัดเจนและฟังดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
2. ทางเลือกที่ 2: Active Voice
โครงสร้าง: Subject + has/have + been + V-ing
ใช้เมื่อรู้ว่าใครเป็นคนทำและต้องการเน้นความต่อเนื่องของการกระทำ เช่น “Workers have been repairing this road for a month” (คนงานซ่อมถนนสายนี้มาเป็นเดือนแล้ว)
การใช้ Active Voice ทำให้ประโยคมีชีวิตชีวาและผู้ฟังเข้าใจได้ทันทีว่าใครทำอะไรและทำมานานแค่ไหน ไม่ต้องใช้โครงสร้างที่ซับซ้อนอย่าง present perfect continuous passive
3. ทางเลือกที่ 3: Present Continuous Passive
โครงสร้าง: Subject + is/am/are + being + Past Participle
ใช้เมื่อต้องการเน้นว่ากำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ เช่น “This road is being repaired now” (ถนนสายนี้กำลังถูกซ่อมแซมอยู่ตอนนี้)
ถ้าต้องการบอกว่ากำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน การใช้ Present Continuous Passive จะตรงประเด็นและเข้าใจง่ายกว่าการบังคับใช้ present perfect continuous passive ที่ฟังดูแปลกๆ
V. คำถามที่พบบ่อย (Frequently Asked Questions)
1. ใช้ในข้อสอบได้ไหม?
ไม่ควรใช้ในข้อสอบหรือการเขียนเชิงวิชาการ เพราะจะถูกมองว่าใช้ภาษาไม่มีประสิทธิภาพ อาจารย์หรือผู้ตรวจจะรู้ทันทีว่าผู้เขียนไม่เข้าใจการใช้ภาษาอังกฤษในทางปฏิบัติ การเลือกใช้ทางเลือกอื่นที่เป็นธรรมชาติกว่าจะได้คะแนนดีกว่า
2. มี Tense อื่นที่คล้ายกันอีกไหม?
Future Continuous Passive เช่น “will be being done” ก็มีปัญหาคล้ายกัน แม้จะไม่มี “been” แต่การใช้ “be being” ติดกันก็ยังฟังดูแปลกๆ เช่นกัน หลักการคือหลีกเลี่ยงการใช้ “being” ซ้ำหรือติดกับคำที่มีเสียงคล้ายกัน
3. เปรียบเทียบ Present Perfect Passive vs Present Continuous Passive
Present Perfect Passive: “The car has been washed” (รถถูกล้างแล้ว) เน้นผลลัพธ์ที่สำเร็จแล้ว
Present Continuous Passive: “The car is being washed” (รถกำลังถูกล้างอยู่) เน้นการกระทำที่กำลังเกิดขึ้น
ทั้งสองแบบชัดเจนและใช้งานได้จริง ไม่จำเป็นต้องใช้ present perfect continuous passive ที่ฟังดูซับซ้อนและไม่เป็นธรรมชาติ
Present perfect continuous passive มีอยู่จริงในทฤษฎี แต่ไม่มีใครใช้ในชีวิตจริงเพราะฟังดูไม่เป็นธรรมชาติ การเข้าใจ Tense นี้ไม่ใช่เพื่อนำไปใช้ แต่เพื่อเข้าใจว่าทำไมเราควรเลือกใช้ทางเลือกอื่นที่ดีกว่า
การเป็นผู้ใช้ภาษาที่มีประสิทธิภาพไม่ได้หมายถึงการท่องจำไวยากรณ์ที่ซับซ้อน แต่คือการรู้จักเลือกใช้เครื่องมือทางภาษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ตอนนี้คุณมีความรู้ที่จะใช้ Passive Voice ได้อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติแล้ว