Present Perfect Continuous Tense มักทำให้นักเรียนหลายคนสับสน แต่จริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิด บทความนี้ TOEIC Mentor รวบรวม Present Perfect Continuous Tense แบบฝึกหัด ครบครัน 20 ข้อพร้อมเฉลยละเอียด พร้อมอธิบายหลักการใช้งานแบบเข้าใจง่าย ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงเทคนิคการใช้ในสถานการณ์จริง รับรองว่าอ่านจบแล้วคุณจะใช้ Tense นี้ได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง
I. ทำความเข้าใจ Present Perfect Continuous ใน 1 นาที
- ใช้เมื่อไหร่: บอกเล่าการกระทำที่ “ทำมาตลอด” และยังไม่จบ หรือเพิ่งจะจบไป
- สูตรคืออะไร: Subject + have/has + been + V.ing
- ตัวอย่างเด็ด: She has been working on this project all morning. (เธอทำโปรเจกต์นี้มาตลอดทั้งเช้า)
Tense นี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราบอกเล่าเหตุการณ์ที่มีความต่อเนื่องจากอดีตมาถึงปัจจุบัน ไม่เหมือน Present Perfect ธรรมดาที่เน้นผลลัพธ์ แต่ Present Perfect Continuous จะเน้นที่กระบวนการและระยะเวลาที่ใช้ทำสิ่งนั้น
II. โครงสร้างประโยคแบบละเอียด
ประโยคบอกเล่า | ประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม |
I have been waiting for you. (ฉันรอเธอมาแล้ว) | I haven’t been waiting long. (ฉันยังไม่ได้รอนาน) | Have you been waiting long? (เธอรอมานานแล้วหรือ?) |
They have been studying English. (พวกเขาเรียนภาษาอังกฤษมา) | They haven’t been studying hard. (พวกเขาไม่ได้เรียนหนัก) | Have they been studying all day? (พวกเขาเรียนมาทั้งวันหรือ?) |
โครงสร้างนี้จะใช้ have กับประธานพหูพจน์ (I, you, we, they) และ has กับประธานเอกพจน์ (he, she, it) การเปลี่ยนเป็นประโยคปฏิเสธก็แค่เติม not หลัง have/has ส่วนประโยคคำถามก็เอา have/has ขึ้นหน้าประโยค
III. สถานการณ์การใช้งานหลัก
เพื่อเน้นย้ำ ‘ความต่อเนื่อง’ (Duration): Tense นี้เน้น “ระยะเวลา” ไม่ใช่ “การสิ้นสุด” เราจะใช้คำที่บอกระยะเวลาอย่าง for และ since บ่อยๆ They have been playing football for two hours. (พวกเขาเล่นฟุตบอลมาสองชั่วโมงแล้ว) ประโยคนี้เน้นว่าพวกเขายังเล่นอยู่หรือเพิ่งหยุดเล่น
เพื่ออธิบาย ‘ผลลัพธ์’ (Result): การกระทำที่ต่อเนื่องได้ส่งผลบางอย่างในปัจจุบัน His eyes are red because he has been crying. (ตาเขาแดงเพราะเขาร้องไห้มา) เราเห็นผลจากการร้องไห้ที่ทำมาก่อนหน้านี้
เพื่อ ‘บ่น’ หรือแสดงอารมณ์ (Complaining): การใช้ในเชิงอารมณ์เพื่อแสดงความรำคาญหรือสงสัย Who has been using my coffee mug? (ใครไปใช้แก้วกาแฟฉันเนี่ย?) ประโยคนี้แสดงความรำคาญที่มีคนมาใช้ของเรา
IV. แบบฝึกหัด Present Perfect Continuous (พร้อมเฉลยละเอียด 20 ข้อ)
ส่วนนี้คือหัวใจหลักที่จะช่วยให้คุณฝึกฝนและเข้าใจการใช้งานจริง present perfect continuous tense แบบฝึกหัด พร้อม เฉลย 20 ข้อ เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณเห็นรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย
1. แบบฝึกหัดชุดที่ 1 (10 ข้อ): เติมคำในช่องว่าง
เติมคำที่ถูกต้องในช่องว่าง โดยใช้ Present Perfect Continuous Tense
- He ______ (work) here since 2010.
- They ______ (wait) for the bus for 30 minutes.
- I ______ (learn) Thai for six months.
- She ______ (cook) dinner all afternoon.
- We ______ (live) in Bangkok since last year.
- The children ______ (play) in the garden for two hours.
- You ______ (study) English since you were young.
- It ______ (rain) heavily since this morning.
- My brother ______ (exercise) at the gym for three months.
- The company ______ (develop) this product since 2019.
2. แบบฝึกหัดชุดที่ 2 (10 ข้อ): Multiple Choice
เลือกคำตอบที่ถูกต้องระหว่าง Present Perfect Simple กับ Present Perfect Continuous
1. I ______ three books this week.
a) have read
b) have been reading
2. I ______ this book for three hours.
a) have read
b) have been reading
3. She ______ her homework.
a) has finished
b) has been finishing
4. She ______ her homework since 2 PM.
a) has finished
b) has been doing
5. They ______ in five countries.
a) have lived
b) have been living
6. They ______ in Japan for ten years.
a) have lived
b) have been living
7. We ______ this movie before.
a) have watched
b) have been watching
8. We ______ TV all evening.
a) have watched
b) have been watching
9. He ______ his car.
a) has sold
b) has been selling
10. He ______ cars for 20 years.
a) has sold
b) has been selling
เฉลยแบบฝึกหัดและคำอธิบายเชิงลึก
เฉลยชุดที่ 1
- has been working (เขาทำงานที่นี่มาตั้งแต่ 2010)
- have been waiting (พวกเขารอรถเมล์มา 30 นาทีแล้ว)
- have been learning (ฉันเรียนภาษาไทยมาหกเดือนแล้ว)
- has been cooking (เธอทำอาหารเย็นมาทั้งบ่าย)
- have been living (เราอยู่ในกรุงเทพฯ มาตั้งแต่ปีที่แล้ว)
- have been playing (เด็กๆ เล่นในสวนมาสองชั่วโมงแล้ว)
- have been studying (เธอเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก)
- has been raining (ฝนตกหนักมาตั้งแต่เช้า)
- has been exercising (พี่ชายฉันออกกำลังกายที่ยิมมาสามเดือนแล้ว)
- has been developing (บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้มาตั้งแต่ 2019)
เฉลยชุดที่ 2
- a) have read – เน้นผลลัพธ์ว่าอ่านจบไปกี่เล่ม
- b) have been reading – เน้นระยะเวลาที่ใช้ในการอ่าน
- a) has finished – การทำการบ้านเสร็จแล้ว (ผลลัพธ์)
- b) has been doing – เน้นว่าทำการบ้านมาตั้งแต่บ่ายสองโมง
- a) have lived – บอกจำนวนประเทศที่เคยอยู่
- b) have been living – เน้นระยะเวลาที่อยู่ในญี่ปุ่น
- a) have watched – เคยดูหนังเรื่องนี้มาก่อน
- b) have been watching – ดูทีวีมาทั้งเย็น (กิจกรรมต่อเนื่อง)
- a) has sold – ขายรถของเขาเสร็จแล้ว
- b) has been selling – ขายรถมาเป็นอาชีพ 20 ปี
V. คำถามที่พบบ่อยและข้อสงสัยเพิ่มเติม
เมื่อคุณเข้าใจหลักการและได้ลองทำ present perfect continuous tense แบบฝึกหัด แล้ว เรามาดูคำถามที่หลายคนสงสัยกันต่อ เพื่อให้คุณไม่พลาดในทุกรายละเอียด
- ทำไมไม่ใช้ Stative Verbs กับ Present Perfect Continuous?
คำกริยาที่แสดงสถานะอย่าง know, love, hate, believe ไม่สามารถใช้รูป continuous ได้ เราจึงพูดว่า I have known him for years ไม่ใช่ I have been knowing
- แล้วถ้าใช้กับ for กับ since ต่างกันยังไง?
For ใช้กับระยะเวลา (for two hours, for three days) ส่วน since ใช้กับจุดเวลาเริ่มต้น (since Monday, since 2020)
- Present Perfect กับ Present Perfect Continuous ต่างกันตรงไหน?
Present Perfect เน้นผลลัพธ์ ส่วน Present Perfect Continuous เน้นกระบวนการและความต่อเนื่อง I have read the book (อ่านจบแล้ว) vs I have been reading the book (กำลังอ่านอยู่หรือเพิ่งอ่านเสร็จ)
การเข้าใจ Present Perfect Continuous จะช่วยยกระดับทักษะภาษาอังกฤษของคุณไปอีกขั้น จุดสำคัญที่ต้องจำคือ tense นี้เน้น “ความต่อเนื่อง” และ “ระยะเวลา” มากกว่า “ผลลัพธ์” การฝึกฝนด้วย present perfect continuous tense แบบฝึกหัด อย่างสม่ำเสมอจะทำให้คุณใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว
อย่าลืมข้อจำกัดสำคัญ เช่น การไม่สามารถใช้กับ Stative Verbs และไม่สามารถบอกจำนวนครั้งได้ แต่เมื่อคุณเข้าใจหลักการแล้ว การใช้ present perfect continuous จะช่วยให้การสื่อสารของคุณมีความแม่นยำและธรรมชาติมากขึ้น ลองนำไปฝึกใช้ในสถานการณ์จริงดู คุณจะพบว่ามันมีประโยชน์มากกว่าที่คิด