แบบฝึกหัดกริยา 3 ช่องพร้อมเฉลย (PDF) และตารางศัพท์ที่ต้องรู้

ไม่ต้องท่องจำแบบตายตัวอีกต่อไป! เราได้รวบรวมแบบฝึกหัด กริยา 3 ช่อง พร้อมเฉลยครบครัน 3 ระดับความยาก พร้อมตารางสรุป irregular verbs กว่า 200 คำที่ใช้บ่อยที่สุด ทุกไฟล์เป็น PDF ดาวน์โหลดฟรี พร้อมใช้งานทันทีไม่ว่าจะเรียนด้วยตัวเองหรือสอนผู้อื่น จากระดับพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น ไปจนถึงระดับสูงที่ท้าทายแม้กระทั่งผู้ที่มีพื้นฐานดีแล้ว บทความนี้จะเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้กริยา 3 ช่องของคุณไปตลกาล

I. ตารางสรุปกริยา 3 ช่อง (Irregular Verbs) ที่ใช้บ่อยที่สุด

1. กริยา 3 ช่อง (V.1, V.2, V.3) คืออะไรและสำคัญอย่างไร?

กริยา 3 ช่องประกอบด้วย V.1 (Infinitive) ซึ่งเป็นรูปพื้นฐานที่ใช้ใน Present Simple, V.2 (Past Simple) ที่เป็นรูปอดีตสำหรับ Past Simple, และ V.3 (Past Participle) ที่เป็นรูปสมบูรณ์ใช้ใน Perfect Tenses เช่น Present Perfect และ Passive Voice

ความสำคัญของการใช้กริยาให้ถูก Tense อยู่ที่การสื่อสารที่แม่นยำ เพราะการใช้ผิดจะทำให้ความหมายของประโยคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น “I eat” (ฉันกิน – ปัจจุบัน) แตกต่างจาก “I ate” (ฉันกินแล้ว – อดีต) อย่างชัดเจน

2. เทคนิคการจำแบบมือโปร: จัดกลุ่มคำศัพท์ตามรูปแบบการเปลี่ยนแปลงทางภาษาศาสตร์

การจำแบบฝึกหัด กริยา 3 ช่อง irregular verbs แบบกลุ่มจะช่วยให้คุณจำได้เร็วกว่าการท่องแบบ A-Z เพราะสมองของเราชอบเชื่อมโยงสิ่งที่คล้ายคลึงกัน วิธีนี้จะทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพและติดทนกว่ามาก

กลุ่ม A (AAA Pattern): คำที่ไม่เปลี่ยนรูป

กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ง่ายที่สุดเพราะทั้ง 3 รูปเหมือนกัน

กลุ่ม B (ABB Pattern): V.2 และ V.3 เหมือนกัน

กลุ่มนี้ V.1 ต่างออกไป แต่ V.2 กับ V.3 เหมือนกัน

กลุ่ม C (ABC Pattern – Vowel Ablaut): เปลี่ยนสระตามลำดับ

กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ท้าทายที่สุดเพราะทั้ง 3 รูปต่างกัน แต่มีรูปแบบการเปลี่ยนสระที่สม่ำเสมอ

กลุ่ม D (กลุ่มพิเศษที่ต้องจำ): คำที่มักใช้ผิดบ่อย

กลุ่มนี้เป็นคำที่มีความหมายคล้ายกันหรือสะกดคล้ายกัน จึงมักเกิดความสับสน

3. ตารางสรุปกริยา 3 ช่องฉบับสมบูรณ์ พร้อมคำอ่าน-คำแปล (PDF)

ดาวน์โหลดไฟล์ PDF ที่รวบรวมคำศัพท์กว่า 200+ คำพร้อมคำอ่านและคำแปลภาษาไทย เพื่อนำไปทบทวนและใช้งานได้สะดวกทุกที่ แม้ในขณะที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต

[200 Irregular Verbs PDF]

II. รวมชุดแบบฝึกหัดกริยา 3 ช่องพร้อมเฉลย (ดาวน์โหลดฟรี)

เราได้จัดทำแบบฝึกหัด กริยา 3 ช่อง พร้อม เฉลยทั้งหมด 3 ระดับ ตั้งแต่ระดับพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น ไปจนถึงระดับสูงที่ท้าทายสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะให้สมบูรณ์แบบ

แบบฝึกหัดชุดที่ 1 (ระดับพื้นฐาน): เติมคำกริยาในตารางให้สมบูรณ์

คำแนะนำ: ดูคำกริยาที่ให้มาแล้วเติมรูปที่ขาดหายไปให้ครบถ้วน โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการเปลี่ยนของกริยาแต่ละกลุ่ม

แบบฝึกหัด

เฉลย

แบบฝึกหัดชุดที่ 2 (ระดับกลาง): เลือกใช้รูปกริยาให้ถูกต้องตามบริบทประโยค

คำแนะนำ: อ่านประโยคให้เข้าใจบริบท แล้วเปลี่ยนรูปกริยาในวงเล็บให้ถูกต้องตาม Tense ที่เหมาะสม โดยสังเกต Signal Words และความหมายของประโยค

Section A: Past Simple vs Present Perfect (ข้อ 1-10)

1. I (never/see) _______ such a beautiful sunset before.
2. Last week, we (go) _______ to the beach and (swim) _______ in the ocean.
3. She (already/finish) _______ her homework, so she can watch TV now.
4. When I was young, I (drink) _______ milk every morning.
5. Have you (eat) _______ lunch yet? I’m hungry!
6. The company (make) _______ a huge profit last year.
7. I (lose) _______ my keys somewhere. I can’t find them anywhere.
8. My grandfather (fight) _______ in the war when he was 20 years old.
9. We (live) _______ in this house since 2010.
10. Yesterday, she (bring) _______ cookies to the office party.
11. By the time I arrived, they (already/begin) _______ the meeting.
12. Tomorrow, I (take) _______ my dog to the vet.
13. She said she (never/be) _______ to Japan before her trip last month.
14. Next week, we (buy) _______ a new car if we save enough money.
15. After he (give) _______ his presentation, everyone applauded loudly.
16. I promise I (not/forget) _______ your birthday next year.
17. The students (do) _______ their homework before the teacher came to class.
18. She (teach) _______ English at this school for 10 years by next December.
19. When I (wake) _______ up this morning, it was already 9 AM.
20. They (choose) _______ the best candidate after interviewing everyone.
21. The phone (ring) _______ five times before someone answered it.
22. I’m tired because I (run) _______ 10 kilometers this morning.
23. She (write) _______ a novel for three years, but she hasn’t finished it yet.
24. Last night, I (think) _______ about changing my career.
25. The movie (begin) _______ by the time we got to the cinema.
26. Every summer, we (swim) _______ in the lake near our house.
27. I (cut) _______ my finger while cooking dinner yesterday.
28. She has (know) _______ him since they were children.
29. The bird (sing) _______ beautifully this morning and woke me up.
30. I will (put) _______ the books on the shelf when I get home.

เฉลย พร้อมคำอธิบาย

1. have never seen – Present Perfect (never = signal word, experience)
2. went, swam – Past Simple (last week = specific past time)
3. has already finished – Present Perfect (already = signal word, result affects now)
4. drank – Past Simple (when I was young = past habit)
5. eaten – Present Perfect (yet = signal word, unfinished time period)
6. made – Past Simple (last year = specific past time)
7. have lost – Present Perfect (current result: can’t find them)
8. fought – Past Simple (when he was 20 = specific past time)
9. have lived – Present Perfect (since 2010 = continuing action)
10. brought – Past Simple (yesterday = specific past time)
11. had already begun – Past Perfect (by the time = before past action)
12. will take – Future Simple (tomorrow = future time)
13. had never been – Past Perfect (before her trip = before past action)
14. will buy – Future Simple (next week = future time)
15. had given – Past Perfect (after = sequence of past actions)
16. will not forget – Future Simple (next year = future promise)
17. had done – Past Perfect (before teacher came = before past action)
18. will have taught – Future Perfect (by next December = completed future action)
19. woke – Past Simple (this morning = specific past time)
20. chose – Past Simple (past completed action)
21. had rung – Past Perfect (before someone answered)
22. ran – Past Simple (this morning = completed past action causing present tiredness)
23. has been writing – Present Perfect Continuous (for three years = duration continuing)
24. thought – Past Simple (last night = specific past time)
25. had begun – Past Perfect (before we got there)
26. swim – Present Simple (every summer = habit/routine)
27. cut – Past Simple (yesterday = specific past time)
28. known – Past Participle after “has” (since childhood = duration)
29. sang – Past Simple (this morning = specific past time)
30. put – Base form after “will” (future intention)

แบบฝึกหัดชุดที่ 3 (ระดับสูง): ค้นหาและแก้ไขคำกริยาที่ใช้ผิดในประโยค

คำแนะนำ: อ่านประโยคอย่างละเอียด หาคำกริยาที่ใช้ผิด แล้วเขียนประโยคที่ถูกต้องใหม่ โดยระบุเหตุผลที่ผิดและวิธีแก้ไข

1. I have drank too much coffee today, so I can’t sleep.
2. The children have ran around the playground all morning.
3. She has sang in the choir for five years now.
4. We have ate at this restaurant many times before.
5. The sun has rose beautifully this morning.
6. They have chose the best candidate for the job.
7. The bell has rang to signal the end of class.
8. I have swam in this pool since I was a child.
9. Yesterday, I have finished my homework very late.
10. She has visited Paris last summer and loved it.
11. When I was young, I have lived in a small village.
12. Last week, we have seen a great movie at the cinema.
13. I have bought this car five years ago.
14. They have moved to their new house last month.
15. Did you ever been to Japan before?
16. I have met him when I was in university.
17. The book was wrote by a famous author.
18. English is spoke by millions of people worldwide.
19. The homework was gave to students yesterday.
20. The window was broke during the storm.
21. She has been laying on the bed all day because she’s sick.
22. The sun raises in the east every morning.
23. I have laid my keys somewhere, but I can’t find them.
24. The price of gas has raised significantly this year.
25. By the time I arrived, they have already left the party.

เฉลย (สรุปข้อผิดพลาดและการแก้ไข)

III. คำถามที่พบบ่อยและข้อควรรู้เพิ่มเติม (Advanced FAQs)

1. ในทางภาษาศาสตร์ อะไรคือความแตกต่างที่แท้จริงระหว่าง Regular Verbs (-ed) และ Irregular Verbs?

ความแตกต่างหลักอยู่ที่แนวคิด “Strong Verbs” และ “Weak Verbs” โดย Irregular Verbs ส่วนใหญ่เป็น Strong Verbs ที่เปลี่ยนสระภายในคำ (เช่น sing-sang-sung) ซึ่งมาจากภาษาอังกฤษโบราณ ขณะที่ Regular Verbs เป็น Weak Verbs ที่เติมปัจจัย -ed ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นใหม่กว่าและง่ายกว่า

2. จริงหรือไม่ที่คำกริยาเกิดใหม่ในภาษาอังกฤษทั้งหมดเป็น Regular Verbs?

ใช่เป็นส่วนใหญ่ เพราะระบบการเติม -ed เป็นระบบที่ยัง “Productive” หรือยังคงสร้างคำใหม่ได้อยู่ ตัวอย่างเช่น คำใหม่ๆ เช่น “google” (googled, googled) หรือ “text” (texted, texted) ล้วนเป็น Regular Verbs ทั้งสิ้น

3. นอกจากรูปแบบการเปลี่ยนสระแล้ว เราสามารถจัดกลุ่มกริยา 3 ช่องด้วยวิธีอื่นได้อีกหรือไม่?

สามารถจัดกลุ่มได้หลายวิธี เช่น กลุ่มตามรากศัพท์เดียวกัน (Etymology) ที่มาจากภาษาเดียวกัน กลุ่มที่คงรูปเดิมจากภาษาอังกฤษโบราณ และกลุ่มที่เปลี่ยนรูปตามเสียงข้างเคียง โดยการเลียนแบบคำอื่นที่มีเสียงคล้ายกัน

4. กริยา 3 ช่องของภาษาอังกฤษ มีความคล้ายคลึงหรือแตกต่างจากภาษาในกลุ่มเจอร์แมนิกอื่นๆ อย่างไร?

ภาษาอังกฤษมีความคล้ายคลึงกับภาษาเยอรมันมาก เช่น sing-sang-sung ในอังกฤษเปรียบเทียบกับ singen-sang-gesungen ในเยอรมัน แสดงให้เห็นรากศัพท์ร่วมกันจากภาษาเจอร์แมนิกโบราณ ทำให้การเรียนรู้กริยา 3 ช่องไม่ใช่เพียงการท่องจำ แต่เป็นการสำรวจประวัติศาสตร์ภาษาที่น่าสนใจ

บทความนี้ได้มอบเครื่องมือครบครันให้กับคุณแล้ว ตั้งแต่ตารางสรุป แบบฝึกหัด กริยา 3 ช่อง พร้อมเฉลยที่สามารถใช้งานได้ทันที ไปจนถึงความเข้าใจเชิงลึกที่จะทำให้คุณมองเห็นภาพใหญ่ของภาษา ขั้นตอนต่อไปคือการนำความรู้เหล่านี้ไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน โดยการสังเกตและฝึกฝนจากการอ่านหรือฟังภาษาอังกฤษ จำไว้ว่าการเรียนรู้ภาษาเป็นการเดินทางที่สวยงาม และทุกขั้นตอนที่คุณก้าวไปจะนำคุณไปสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน