คุณยังสับสนว่าควรพูด “I always go” หรือ “I go always” อยู่ไหม? การใช้ adverbs of frequency ให้ถูกต้องไม่ยากอย่างที่คิด บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกตั้งแต่การเลือกคำที่สื่อความถี่ได้แม่นยำ ไปจนถึงสูตร 3 ข้อง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณวางตำแหน่งได้ถูกทุกครั้ง พร้อมเทคนิคขั้นสูงและข้อควรระวังที่หลายคนมักพลาด มาเริ่มใช้ภาษาอังกฤษให้คล่องและเป็นธรรมชาติกันเลย!
I. ปูพื้นฐาน: ความหมายและประเภท
1. นิยาม: Adverb of Frequency คือ
Adverbs of frequency คือคำกริยาวิเศษณ์ที่ใช้บอกความถี่หรือความบ่อยครั้งของการกระทำ ตอบคำถามว่า “How often?” หรือ “บ่อยแค่ไหน?” เช่น เราทำสิ่งนั้นทุกวันหรือไม่บ่อยนัก
2. ประเภทหลัก 2 กลุ่ม
เมื่อพูดถึง adverbs of frequency เราแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ที่ต้องเข้าใจให้ชัดก่อน
- Indefinite Frequency Adverbs (ความถี่ไม่ระบุเวลา) เป็นคำที่บอกความถี่โดยทั่วไปโดยไม่บอกเวลาแน่ชัด เช่น always, usually, often, sometimes, rarely, never ซึ่งบทความนี้จะเน้นกลุ่มนี้เป็นหลัก
- Definite Frequency Adverbs (ความถี่ระบุเวลา) คือคำที่บอกความถี่พร้อมระบุช่วงเวลาที่แน่นอน เช่น every day, once a week, twice a month, annually คำพวกนี้มักวางท้ายประโยค
การแยกประเภทนี้สำคัญมาก เพราะตำแหน่งในประโยคจะต่างกัน หากเข้าใจผิดอาจทำให้ประโยคฟังดูแปลกหรือผิดหลักไวยากรณ์
II. Adverbs of Frequency ที่พบบ่อย
มาดูคลังคำศัพท์ adverbs of frequency ที่ใช้บ่อยที่สุด เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างแม่นยำตามบริบท

| คำศัพท์ | คำแปล | ตัวอย่าง |
| always | เสมอ, ตลอดเวลา | I always brush my teeth before bed. (ผมแปรงฟันก่อนนอนทุกคืนเลย) |
| usually | มักจะ, โดยปกติ | She usually drinks coffee in the morning. (เธอมักดื่มกาแฟตอนเช้า) |
| normally | ปกติแล้ว, โดยทั่วไป | We normally finish work at 5 PM. (ปกติเราเลิกงานตอนห้าโมงเย็น) |
| frequently | บ่อยๆ, เป็นประจำ | He frequently visits his parents. (เขาไปเยี่ยมพ่อแม่บ่อยมาก) |
| often | บ่อย | They often go to the gym together. (พวกเขาไปฟิตเนสด้วยกันบ่อยๆ) |
| sometimes | บางครั้ง, บางที | I sometimes cook Thai food. (บางทีผมก็ทำอาหารไทยกินเอง) |
| occasionally | เป็นครั้งคราว | She occasionally works from home. (เธอทำงานที่บ้านเป็นบางครั้ง) |
| seldom | ไม่ค่อย, นานๆ ครั้ง | He seldom eats junk food. (เขาไม่ค่อยกินอาหารขยะ) |
| rarely | แทบไม่, นานๆ ทีจะ | We rarely watch TV. (เราแทบไม่ได้ดูทีวีเลย) |
| hardly ever | แทบจะไม่เคย | She hardly ever complains. (เธอแทบไม่เคยบ่นเลย) |
| never | ไม่เคยเลย | I never smoke. (ผมไม่สูบบุหรี่เด็ดขาด) |
ตารางนี้จะช่วยให้คุณเลือกใช้คำได้แม่นยำขึ้น เพราะแต่ละคำสื่อถึงระดับความถี่ที่ต่างกันอย่างชัดเจน
III. เจาะลึกกฎ 3 ข้อ: สูตรการวางตำแหน่ง
นี่คือหัวใจสำคัญของการใช้ adverbs of frequency ให้ถูกต้อง เพียงจำสูตร 3 ข้อนี้ คุณจะวางตำแหน่งได้แม่นทุกครั้ง
1. กฎข้อที่ 1: หลังกริยา Be (After verb “to be”)
สูตร: S + Be + Adverb of Frequency
เมื่อประโยคมีกริยา “am, is, are, was, were” ให้วาง adverb of frequency ไว้หลังกริยา be ทันที
- She is always late for meetings. (เธอมาประชุมสายเสมอเลย)
- They are usually happy together. (พวกเขามักมีความสุขด้วยกัน)
- I was never good at math. (ผมไม่เคยเก่งคณิตศาสตร์เลย)
- We are often busy on weekends. (เรามักยุ่งช่วงสุดสัปดาห์)
จำสูตรง่ายๆ ว่า “Be + Adverb” แล้วคุณจะไม่พลาดแน่นอน
2. กฎข้อที่ 2: หน้ากริยาหลัก (Before main verbs)
สูตร: S + Adverb of Frequency + V (main verb)
เมื่อประโยคมีกริยาหลักที่ไม่ใช่ “be” ให้วาง adverb of frequency ไว้หน้างริยาหลักนั้น
- I always check my email in the morning. (ผมเช็คอีเมลทุกเช้าเป็นกิจวัตร)
- He usually drives to work. (เขามักขับรถไปทำงาน)
- We sometimes order food delivery. (เราสั่งอาหารเดลิเวอรี่บางครั้ง)
- They rarely argue with each other. (พวกเขาไม่ค่อยทะเลาะกัน)
นี่คือกฎที่ใช้บ่อยที่สุด จำว่า “Adverb + Verb” คุณจะไม่สับสนอีกต่อไป
3. กฎข้อที่ 3: ระหว่างกริยาช่วยและกริยาหลัก (Between auxiliary and main verb)
สูตร: S + Auxiliary Verb + Adverb of Frequency + Main Verb
เมื่อประโยคมีกริยาช่วย (can, will, should, have, etc.) ร่วมกับกริยาหลัก ให้วาง adverb of frequency ไว้ระหว่างกริยาช่วยกับกริยาหลัก
- She can always solve difficult problems. (เธอแก้ปัญหายากได้เสมอ)
- I have never been to Japan. (ผมไม่เคยไปญี่ปุ่นเลย)
- You should usually arrive 15 minutes early. (คุณควรมาก่อนเวลา 15 นาทีตามปกติ)
- They will often ask for your opinion. (พวกเขามักจะถามความเห็นคุณบ่อยๆ)
สูตรนี้ช่วยให้ประโยคที่มีโครงสร้างซับซ้อนฟังดูเป็นธรรมชาติ จำว่า “Auxiliary + Adverb + Main Verb” จะไม่ผิดพลาด
IV. เปรียบเทียบ Definite vs. Indefinite
มาดูความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสองประเภทนี้อย่างชัดเจน เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้ถูกต้อง
1. ตำแหน่งในประโยค
| ประเภท | ตำแหน่ง | ตัวอย่าง |
| Indefinite (ไม่ระบุเวลา) | กลางประโยค (ตามกฎ 3 ข้อ) | I always swim. (ผมว่ายน้ำเสมอ) |
| Definite (ระบุเวลา) | ท้ายประโยค | I swim every day. (ผมว่ายน้ำทุกวัน) |
3. การใช้งานแบบคู่ขนาน
คุณสามารถใช้ทั้งสองแบบในประโยคเดียวกันเพื่อเพิ่มความชัดเจน
- I usually go jogging in the morning. (ปกติผมไปวิ่งตอนเช้า)
- She always calls me on Sundays. (เธอโทรหาผมทุกวันอาทิตย์เลย)
- We rarely eat out during weekdays. (เราไม่ค่อยกินข้างนอกช่วงวันธรรมดา)
การรวมทั้งสองแบบทำให้ประโยคสมบูรณ์และชัดเจนยิ่งขึ้น โดย indefinite adverb บอกความถี่โดยทั่วไป ส่วน definite adverb บอกช่วงเวลาเฉพาะเจาะจง
V. เกร็ดความรู้เสริม (FAQs & Idioms)
1. ถาม: “Ever” แตกต่างจาก “Always” อย่างไร?
“Always” (เสมอ) หมายถึงทุกครั้งไม่มีข้อยกเว้น ส่วน “ever” (เคย) ใช้ในประโยคคำถามและปฏิเสธเพื่อหมายถึง “ในช่วงเวลาใดก็ตาม” เช่น Have you ever been here? (คุณเคยมาที่นี่ไหม) ไม่ได้หมายความว่ามาทุกครั้ง
2. ถาม: จะใช้ “Often” กับ “Frequently” ต่างกันไหม?
ทั้งสองคำมีความหมายใกล้เคียงกัน แต่ “frequently” ฟังดูเป็นทางการมากกว่า มักใช้ในบริบททางธุรกิจหรือเอกสารที่จริงจัง ส่วน “often” ใช้ได้ทั้งในสถานการณ์ทางการและไม่เป็นทางการ
3. สำนวนที่ใช้แทน Adverbs ปกติ
นอกจาก adverbs of frequency มาตรฐาน ภาษาอังกฤษยังมีสำนวนที่สื่อความถี่ได้น่าสนใจ เช่น:
- “Once in a blue moon” = Very rarely (นานๆ ครั้ง หรือแทบไม่เคยเลย)
ตัวอย่าง: I eat fast food once in a blue moon. (ผมกินฟาสต์ฟู้ดนานๆ ทีจริงๆ) - “Every now and then” = Sometimes (เป็นครั้งคราว, บางครั้ง)
ตัวอย่าง: We go hiking every now and then. (เราไปปีนเขาเป็นบางครั้ง) - “More often than not” = Usually (มักจะ, ส่วนใหญ่)
ตัวอย่าง: More often than not, he’s right. (ส่วนใหญ่เขาพูดถูก)
4. Inversion: เทคนิคการกลับประโยคขั้นสูง
เมื่อต้องการเน้นย้ำอย่างมาก เราสามารถนำ negative adverb มาไว้หน้าประโยคและกลับโครงสร้างประโยคได้ โดยใช้รูปแบบคำถาม
- Never have I seen such a beautiful sunset. (ผมไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ตกสวยขนาดนี้เลย)
- Rarely do we get this opportunity. (เราไม่ค่อยได้โอกาสแบบนี้เลย)
เทคนิคนี้ทำให้ภาษาฟังดูมีพลังและเป็นทางการมาก แต่ใช้เฉพาะเมื่อต้องการเน้นย้ำเท่านั้น
ตอนนี้คุณมีทุกอาวุธที่จำเป็นสำหรับการใช้ adverbs of frequency อย่างมั่นใจแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกคำที่เหมาะสมตามเปอร์เซ็นต์ความถี่ การวางตำแหน่งตามสูตร 3 ข้อ หรือแม้แต่การหลีกเลี่ยงกับดักที่คนมักพลาดบ่อยๆ
สิ่งสำคัญที่สุดคือการนำไปใช้จริง ลองเริ่มจากการสังเกตกิจวัตรประจำวันของตัวเองแล้วอธิบายเป็นประโยคภาษาอังกฤษ เช่น “I always wake up at 7 AM” หรือ “I rarely skip breakfast” ยิ่งฝึกบ่อยเท่าไหร่ ก็จะยิ่งใช้ได้คล่องและเป็นธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น
อย่าลืมว่าไวยากรณ์เป็นเพียงเครื่องมือช่วยให้เราสื่อสารได้ชัดเจนขึ้น ไม่ใช่กฎเหล็กที่ทำให้กลัวที่จะพูด ถ้าพลาดบ้างก็ไม่เป็นไร แค่แก้ไขและพัฒนาไปเรื่อยๆ คุณจะเก่งขึ้นแน่นอน
