TOEIC GrammarDefining Relative Clause คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์ เข้าใจง่ายใน 5 นาที

Defining Relative Clause คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์ เข้าใจง่ายใน 5 นาที

Defining relative clause คือ หัวข้อไวยากรณ์ที่ทำให้นักเรียนไทยปวดหัวมากที่สุด แต่จริงๆ แล้วเข้าใจได้ง่ายมากหากรู้เคล็ดลับ! บทความนี้ TOEIC Mentor จะพาคุณเรียนรู้นิยาม การใช้ who, which, that อย่างถูกต้อง รวมถึงกฎทองที่ห้ามใช้เครื่องหมายจุลภาค พร้อมความแตกต่างระหว่าง defining and non defining relative clauses และ defining relative clauses exercises มากมายเพื่อทดสอบความเข้าใจ เพียง 5 นาทีคุณจะใช้ไวยากรณ์นี้ได้อย่างมั่นใจเหมือนเจ้าของภาษา!

I. Defining Relative Clause  คืออะไร?

Defining relative clause คือ อนุประโยคที่ทำหน้าที่ขยายคำนามโดยระบุว่าเรากำลังพูดถึงคนไหนหรือสิ่งไหนเป็นการเฉพาะเจาะจง ข้อมูลในส่วนนี้ถือเป็นข้อมูลจำเป็นสำหรับความหมายของประโยค หากตัดออกไปแล้วจะทำให้ผู้ฟังไม่เข้าใจว่าเราหมายถึงอะไรกันแน่

ลองดูตัวอย่างนี้: “คนที่ยืนอยู่ข้างรถสีแดงเป็นพี่ชายฉัน” ส่วน “ที่ยืนอยู่ข้างรถสีแดง” เป็น defining relative clause เพราะหากไม่มีข้อมูลนี้ เราจะไม่รู้ว่าหมายถึงคนไหน

Defining relative clause มีคุณสมบัติสำคัญสองประการ ข้อแรกคือเป็นข้อมูลจำเป็นที่ขาดไปแล้วความหมายไม่สมบูรณ์ ข้อที่สองคือทำหน้าที่เหมือนป้ายชื่อที่ชี้เป้าให้คำนามเป็นการเฉพาะเจาะจง

กฎเหล็กข้อแรกที่ต้องจำ: ห้ามใช้เครื่องหมายจุลภาค (Comma) คั่นโดยเด็ดขาด

กฎสำคัญที่สุดของ defining relative clause คือ ห้ามใช้เครื่องหมายจุลภาคคั่นระหว่างคำนามหลักกับ relative clause โดยเด็ดขาด เพราะการใส่จุลภาคจะเปลี่ยนความหมายและประเภทของประโยคทันที

ประโยคกำกวม (ไม่มี Defining Clause) ประโยคชัดเจน (มี Defining Clause)
Students are hardworking. (นักเรียนทุกคนขยัน) Students who study every day are hardworking. (นักเรียนที่เรียนทุกวันขยัน)
The book is expensive. (หนังสือเล่มนั้นแพง) The book that I bought yesterday is expensive. (หนังสือที่ฉันซื้อเมื่อวานแพง)

สังเกตว่าประโยคแรกพูดถึงคนหรือสิ่งของในลักษณะทั่วไป ส่วนประโยคที่สองระบุเฉพาะเจาะจงว่าหมายถึงใครหรืออะไร

II. การใช้ Relative Pronouns อย่างแม่นยำ

การใช้ Relative Pronouns อย่างแม่นยำ

1. Who: สำหรับ ‘คน’ ในฐานะประธานของอนุประโยค

คำ who ใช้เมื่อต้องการขยายคำนามที่เป็นคนและทำหน้าที่เป็นประธานในอนุประโยค โครงสร้างคือ คำนาม + who + กริยา + ส่วนที่เหลือ

ตัวอย่าง: “The teacher who explains grammar clearly is very popular.” (ครูที่อธิบายไวยากรณ์ได้ชัดเจนเป็นที่นิยมมาก) ในประโยคนี้ who ทำหน้าที่เป็นประธานของกริยา explains

2. Which: สำหรับ ‘สัตว์และสิ่งของ’

คำ which ใช้ขยายคำนามที่เป็นสัตว์หรือสิ่งของ ไม่ว่าจะทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในอนุประโยคก็ได้ โครงสร้างคือ คำนาม + which + กริยา หรือ คำนาม + which + ประธาน + กริยา

ตัวอย่าง: “The phone which has a good camera costs 20,000 baht.” (โทรศัพท์ที่มีกล้องดีราคา 20,000 บาท) และ “The book which I read last week was interesting.” (หนังสือที่ฉันอ่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้วน่าสนใจ)

3. That: คำสรรพนามอเนกประสงค์ (Joker Pronoun)

คำ that เป็นตัวเลือกที่ใช้ได้กับทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ ถือเป็นคำที่ยืดหยุ่นที่สุดใน relative pronouns และนิยมใช้ในภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียน

ตัวอย่าง: “The student that studies hard will pass the exam.” (นักเรียนที่เรียนหนักจะสอบผ่าน) และ “The car that I want to buy is too expensive.” (รถที่ฉันอยากซื้อแพงเกินไป)

4. Whose: แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive)

คำ whose ใช้แสดงความเป็นเจ้าของและสามารถใช้ได้กับทั้งคนและสิ่งของ โครงสร้างคือ คำนาม + whose + คำนาม + กริยา โดย whose จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับสิ่งของ

ตัวอย่าง: “The woman whose car was stolen called the police.” (ผู้หญิงที่รถถูกขโมยโทรหาตำรวจ) และ “The company whose products are popular will expand next year.” (บริษัทที่ผลิตภัณฑ์เป็นที่นิยมจะขยายกิจการปีหน้า)

5. Whom: สำหรับ ‘คน’ ในฐานะกรรม (ในภาษาทางการ)

คำ whom ใช้เมื่อคำนามที่เป็นคนทำหน้าที่เป็นกรรมในอนุประโยค แต่ในภาษาพูดปัจจุบันมักใช้ who แทนหรือละคำไปเลย โครงสร้างคือ คำนาม + whom + ประธาน + กริยา

ตัวอย่าง: “The person whom you met yesterday is my colleague.” (คนที่คุณพบเมื่อวานเป็นเพื่อนร่วมงานฉัน) หรือพูดได้ง่ายขึ้นว่า “The person you met yesterday is my colleague.”

III. กฎการละ Relative Pronoun

1. เงื่อนไขที่สามารถ ‘ละ’ Pronoun ได้ (เมื่อทำหน้าที่เป็นกรรม)

การละ relative pronoun ทำได้เมื่อคำสรรพนามนั้นทำหน้าที่เป็นกรรมในอนุประโยคเท่านั้น วิธีสังเกตง่ายคือหลัง relative pronoun จะตามด้วยประธาน + กริยาทันที

ตัวอย่าง: “The movie (that/which) I watched last night was boring.” (หนังที่ฉันดูเมื่อคืนน่าเบื่อ) สังเกตว่าหลัง that/which ตามด้วย I (ประธาน) + watched (กริยา) ทันที จึงละได้

2. กรณีที่ ‘ห้ามละ’ Pronoun เด็ดขาด (เมื่อทำหน้าที่เป็นประธาน)

ห้ามละ relative pronoun เมื่อมันทำหน้าที่เป็นประธานในอนุประโยค วิธีสังเกตคือหลัง relative pronoun จะตามด้วยกริยาทันทีโดยไม่มีประธานคั่น

ละได้ (Pronoun เป็นกรรม) ละไม่ได้ (Pronoun เป็นประธาน)
The book (that) I bought… The book that costs 500 baht…
The person (whom) you called… The person who called you…
The food (which) we ordered… The food which tastes good…

สังเกตว่าในคอลัมน์ซ้ายหลัง relative pronoun มีประธานคั่น (I, you, we) ส่วนคอลัมน์ขวาตามด้วยกริยาทันที (costs, called, tastes)

IV. Defining vs. Non-Defining Relative Clause

นี่คือจุดที่นักเรียนสับสนมากที่สุด แต่จริงๆ แล้วแยกได้ง่ายๆ ด้วยกฎไม่กี่ข้อ Defining and non defining relative clauses มีความแตกต่างพื้นฐานที่สำคัญมาก

หัวข้อเปรียบเทียบ Defining Relative Clause Non-Defining Relative Clause
ความจำเป็นของข้อมูล ข้อมูลจำเป็น ขาดไม่ได้ ข้อมูลเสริม ขาดไปก็ยังเข้าใจ
การใช้ Comma ห้ามใช้เด็ดขาด ต้องใช้ครอบข้างหน้าและหลัง
ความหมายของประโยค ระบุเฉพาะเจาะจง เพิ่มข้อมูลทั่วไป
ตัวอย่าง My brother who lives in London is a doctor. (พี่ชายที่อยู่ลอนดอน) My brother, who lives in London, is a doctor. (พี่ชายของฉัน ซึ่งอยู่ลอนดอน)

ประโยคแรกบอกว่ามีพี่ชายหลายคนและกำลังพูดถึงคนที่อยู่ลอนดอนเป็นการเฉพาะ ส่วนประโยคที่สองบอกว่ามีพี่ชายคนเดียวและเพิ่มข้อมูลว่าเขาอยู่ลอนดอน

V. แบบทดสอบความเข้าใจ (Defining Relative Clauses Exercises)

ถึงเวลาทดสอบความเข้าใจกับ defining relative clauses exercises ที่จะช่วยยืนยันว่าคุณเข้าใจหลักการแล้วจริงๆ แบบฝึกหัดนี้ครอบคลุมทุกประเด็นที่เราเรียนมา

แบบฝึกหัดที่: เลือก Relative Pronoun ที่ถูกต้อง

1. The woman _____ lives next door is a doctor.
a) who
b) which
c) whose
d) whom

2. I bought the phone _____ has the best camera.
a) who
b) which
c) whose
d) whom

3. The student _____ homework is always perfect gets good grades.
a) who
b) which
c) whose
d) that

4. The people _____ we met at the party were very friendly.
a) who
b) which
c) whom
d) whose

5. The restaurant _____ serves Italian food is very popular.
a) which
b) who
c) whom
d) whose

เฉลยแบบฝึกหัด

1. a) who (คน+เป็นประธาน)
2. b) which (สิ่งของ+เป็นประธาน)
3. c) whose (แสดงความเป็นเจ้าของ)
4. c) whom (คน+เป็นกรรม – ทางการ) หรือ a) who (ไม่เป็นทางการ)
5. a) which (สิ่งของ+เป็นประธาน)

VI. คำถามที่พบบ่อย (FAQs) และข้อสงสัยเชิงลึก

1. Restrictive Clause คืออะไร และเหมือนกับ Defining Relative Clause หรือไม่?

Restrictive Clause คือ ชื่อเดียวกันกับ defining relative clause นั่นเอง เป็นเพียงคำศัพท์ในตำราไวยากรณ์ที่เป็นทางการกว่าเท่านั้น ทั้งสองคำหมายถึงสิ่งเดียวกันและใช้หลักการเดียวกัน คำว่า “restrictive” มาจากการที่อนุประโยคนี้ “จำกัด” หรือ “ระบุ” ความหมายของคำนามให้เฉพาะเจาะจงขึ้น

2. ความแตกต่างในแง่ของความหมายระหว่างการใช้ ‘that’ กับ ‘which’ สำหรับสิ่งของมีนัยสำคัญเพียงใด?

ในทางปฏิบัติความแตกต่างระหว่าง ‘that’ และ ‘which’ สำหรับสิ่งของแทบไม่มีเลย ทั้งสองใช้แทนกันได้ในกรณีของ defining relative clause แต่มีข้อสังเกตเล็กน้อยคือ ‘that’ เป็นที่นิยมในภาษาพูดและการเขียนแบบไม่เป็นทางการ ส่วน ‘which’ มักให้ความรู้สึกที่เป็นทางการกว่าและพบในงานเขียนวิชาการมากกว่า

3. Relative Pronoun ตัวไหนบ้างที่มักใช้ในภาษาเขียนที่เป็นทางการ และตัวไหนที่นิยมในภาษาพูด?

ภาษาเขียนที่เป็นทางการ มักใช้ whom เมื่อหมายถึงคนในฐานะกรรม, which สำหรับสิ่งของ, และ whose สำหรับแสดงความเป็นเจ้าของ ส่วนภาษาพูดและการเขียนทั่วไป นิยมใช้ that แทนได้เกือบทุกกรณี, who สำหรับคน, และมักละ relative pronoun ออกไปเลยเมื่อทำหน้าที่เป็นกรรม

4. เราสามารถใช้ ‘that’ แทน ‘who’ ได้เสมอไปใช่หรือไม่?

ไม่เสมอไป แม้ว่า ‘that’ จะใช้แทน ‘who’ ได้ในหลายกรณี แต่ในภาษาเขียนที่เป็นทางการหรือเมื่อต้องการแสดงความเคารพต่อบุคคล การใช้ ‘who’ จะเหมาะสมกว่า เช่น “The professor who teaches us is very knowledgeable” จะฟังดูเคารพและเป็นทางการมากกว่า “The professor that teaches us…”

กฎทองสามข้อที่ต้องจำให้ได้สำหรับ defining relative clause คือ ข้อแรกเป็นข้อมูลจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ข้อที่สองห้ามใช้เครื่องหมายจุลภาคคั่นโดยเด็ดขาด และข้อที่สามสามารถละ relative pronoun ได้เมื่อทำหน้าที่เป็นกรรมเท่านั้น

ตอนนี้คุณได้เข้าใจเรื่อง defining relative clause อย่างสมบูรณ์แล้ว ตั้งแต่นิยามพื้นฐานไปจนถึงเทคนิคขั้นสูง ความรู้นี้จะช่วยให้คุณเขียนและพูดภาษาอังกฤษได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากขึ้น นำไปใช้ฝึกฝนในชีวิตประจำวันและคุณจะพบว่าการใช้ภาษาอังกฤษของคุณพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน

Nalinee (นลินี)
Nalinee (นลินี)https://toeicmentor.com
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ Nalinee (นลินี) ผู้ดูแลเนื้อหาเว็บไซต์ Toeicmentor.com แพลตฟอร์มออนไลน์ที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้เรียน TOEIC ในประเทศไทยโดยเฉพาะ ฉันมีหน้าที่คัดสรรและจัดการเนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เรียนจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจง่าย และอัปเดตล่าสุดอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือกำลังเตรียมสอบเพื่อคะแนนที่สูงขึ้น Toeicmentor.com พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดในทุกขั้นตอนของการเรียนรู้ TOEIC ของคุณ
สารบัญ [hide]

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

โพสต์ใหม่

ศัพท์ของหวานภาษาอังกฤษฉบับสมบูรณ์ | ครบทั้งขนมฝรั่ง-ขนมไทย

เคยอยากสั่งของหวานในร้านกาแฟต่างประเทศแต่ติดคำศัพท์ไหม? บทความนี้ TOEIC Mentor รวบรวมศัพท์ของหวานภาษาอังกฤษมากกว่า 100 คำ...

คลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษ A-Z ฉบับสมบูรณ์: เรียนรู้ เข้าใจ และนำไปใช้ได้จริง

ในยุคที่เทคโนโลยีและการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ ทักษะภาษาอังกฤษจึงกลายเป็นพื้นฐานที่ทุกคนควรมี หลายคนไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากที่ไหนหรือควรเรียนคำศัพท์อะไร การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ A-Z เป็นวิธีสร้างรากฐานอย่างเป็นระบบ ช่วยให้จดจำและใช้งานได้จริง...

Infinitive without to (Bare Infinitive) คืออะไร? สรุปครบทุกกฎการใช้ พร้อมตัวอย่างและแบบทดสอบ

หลายคนเคยสงสัยว่าเมื่อไหร่ควรใช้กริยาโดยไม่ใส่ "to" นำหน้า บทความนี้ TOEIC Mentor จะตอบทุกคำถามเกี่ยวกับ...