TOEIC Vocabulary101 สุภาษิตภาษาอังกฤษ (English Proverbs) พร้อมคำแปล ความหมาย และตัวอย่างใช้จริง

101 สุภาษิตภาษาอังกฤษ (English Proverbs) พร้อมคำแปล ความหมาย และตัวอย่างใช้จริง

สุภาษิตภาษาอังกฤษไม่ใช่แค่ประโยคสวยๆ ที่ใช้ตกแต่งภาษา แต่คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณเข้าใจวัฒนธรรมและวิธีคิดของเจ้าของภาษา บทความนี้รวบรวม 101 สุภาษิตภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุด พร้อมคำอ่าน คำแปลที่เข้าใจง่าย การเทียบกับสํานวนสุภาษิต ภาษาอังกฤษที่คนไทยคุ้นเคย และตัวอย่างประโยคใช้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือกำลังพัฒนาทักษะภาษา บทความนี้จะช่วยให้คุณใช้ English proverb ได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง

I. สุภาษิตภาษาอังกฤษคืออะไรและสำคัญอย่างไร?

นิยามของ “Proverb”

สุภาษิตภาษาอังกฤษ หรือ English Proverbs คือประโยคสั้นๆ ที่สรุปบทเรียนชีวิตหรือสัจธรรมจากประสบการณ์ของผู้คนมานานหลายชั่วอายุคน ไม่ใช่แค่ประโยคบอกเล่าธรรมดาที่ใครก็พูดได้ แต่เป็นคำพูดที่ถูกหล่อหลอมผ่านกาลเวลาและถูกใช้สืบต่อกันมาจนกลายเป็นภูมิปัญญาร่วมของสังคม แต่ละสุภาษิตมักซ่อนความหมายลึกกว่าที่เห็นผิวเผิน ทำให้ผู้ที่เข้าใจสามารถจับประเด็นสำคัญของเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว

ทำไมต้องเรียนรู้สุภาษิต?

การเรียนรู้ proverb English ไม่ใช่แค่การท่องจำประโยคเท่านั้น แต่มีประโยชน์ที่ซ่อนอยู่หลายด้าน ได้แก่

  • ทำให้ภาษาของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษา เพราะเจ้าของภาษาใช้สุภาษิตเหล่านี้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ไม่ใช่แค่ในหนังสือเรียน
  • เป็นทางลัดในการทำความเข้าใจวิธีคิดและวัฒนธรรมตะวันตก ผ่านสุภาษิต คุณจะเห็นว่าผู้คนในวัฒนธรรมนั้นให้ความสำคัญกับอะไร มีมุมมองต่อชีวิตอย่างไร
  • ช่วยให้เข้าใจความหมายแฝงในภาพยนตร์ หนังสือ หรือข่าวได้ดีขึ้น หลายครั้งที่ตัวละครในหนังพูดสุภาษิตออกมาประโยคเดียว แต่ถ้าคุณไม่รู้ความหมาย คุณก็จะพลาดจุดสำคัญของเรื่องไปทั้งหมด

II. 10 สุภาษิตพื้นฐานที่ต้องรู้

10 สุภาษิตพื้นฐานที่ต้องรู้

สุภาษิตภาษาอังกฤษ คำแปลตรงตัว ความหมายเชิงลึก ตัวอย่างการใช้
Actions speak louder than words. การกระทำดังกว่าคำพูด การพิสูจน์ตัวเองด้วยการลงมือทำมีค่าน่าเชื่อถือกว่าคำพูด คนที่ทำจริงได้รับความเชื่อถือมากกว่าคนที่พูดแต่ไม่ทำ He promised to help us, but he never showed up. It proves that actions speak louder than words. (เขาสัญญาว่าจะช่วย แต่ไม่เคยทำจริง นี่พิสูจน์ว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด)
The early bird catches the worm. นกที่มาเร็วจับหนอนได้ คนที่เริ่มก่อนมักได้เปรียบและมีโอกาสมากกว่า ควรขยันและไม่ชักช้า I arrived early and got everything I wanted. The early bird catches the worm! (ฉันไปถึงก่อนเลยได้ของครบ คนมาก่อนย่อมได้เปรียบ)
Don’t judge a book by its cover. อย่าตัดสินหนังสือจากปก อย่าด่วนตัดสินคนหรือสิ่งจากภายนอก ควรเปิดใจและให้โอกาส That restaurant looks old, but the food is amazing. Don’t judge a book by its cover. (ร้านดูเก่าแต่อาหารอร่อยมาก อย่าตัดสินจากภายนอก)
Practice makes perfect. การฝึกฝนทำให้สมบูรณ์แบบ ความเก่งเกิดจากการฝึกซ้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่พรสวรรค์ล้วนๆ I practiced guitar every day for a year. Practice makes perfect. (ฉันฝึกกีตาร์ทุกวัน การฝึกทำให้เก่งขึ้นจริงๆ)
When in Rome, do as the Romans do. เมื่ออยู่ในโรม จงทำเหมือนชาวโรม ควรปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของที่ที่เราอยู่ เพื่อความกลมกลืนและเคารพผู้อื่น In Japan, I took off my shoes before entering a house. When in Rome, do as the Romans do. (ในญี่ปุ่นต้องถอดรองเท้า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม)
Better late than never. มาช้าดีกว่าไม่มาเลย การเริ่มต้นช้ายังดีกว่าไม่เริ่มเลย เป็นคำให้กำลังใจและบางครั้งใช้เชิงเสียดสี He finally apologized after three months. Better late than never. (เขาขอโทษหลังสามเดือน ก็ดีกว่าไม่ขอโทษเลย)
The grass is always greener on the other side. หญ้าที่อีกฝั่งเขียวกว่าเสมอ คนเรามักคิดว่าสิ่งที่คนอื่นมีดีกว่าของตัวเอง ควรรู้จักพอใจในสิ่งที่มี She changed jobs and realized the grass is always greener on the other side. (เธอย้ายงานแล้วรู้ว่าของเก่าก็ดีอยู่แล้ว)
A picture is worth a thousand words. ภาพหนึ่งภาพมีค่าเท่ากับคำพูดพันคำ ภาพถ่ายทอดความหมายและอารมณ์ได้ดีกว่าคำพูด เหมาะกับยุคโซเชียล I made an infographic instead of a report. A picture is worth a thousand words. (ฉันทำอินโฟกราฟิกแทนรายงาน ภาพสื่อความหมายได้มากกว่า)
Don’t put all your eggs in one basket. อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าเดียว เตือนให้กระจายความเสี่ยง ไม่พึ่งสิ่งเดียวในชีวิตหรือลงทุนเดียว I invested in different things. Don’t put all your eggs in one basket. (ฉันลงทุนหลากหลาย อย่าเอาไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าเดียว)
You can’t have your cake and eat it too. คุณไม่สามารถเก็บเค้กไว้แล้วกินมันไปพร้อมกันได้ สอนว่าชีวิตต้องเลือก ไม่สามารถได้ทุกอย่างพร้อมกัน ควรรู้จักยอมรับข้อแลกเปลี่ยน You want a high salary and work only 4 hours? You can’t have your cake and eat it too. (อยากได้เงินเดือนสูงแต่ทำงานน้อย ไม่มีทางได้ทั้งสองอย่างพร้อมกัน)

III. เจาะลึกสุภาษิตตามสถานการณ์: เลือกใช้ให้ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา

1. หมวดการทำงานและความสำเร็จ

สุภาษิตภาษาอังกฤษในหมวดนี้จะช่วยให้คุณสื่อสารเรื่องการทำงาน การตั้งเป้าหมาย และการบรรลุความสำเร็จได้อย่างมีน้ำหนัก แทนที่จะพูดยืดยาว เพียงใช้สุภาษิตเหล่านี้ก็สามารถถ่ายทอดแนวคิดที่ซับซ้อนได้อย่างกระชับ

  • Where there’s a will, there’s a way (ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น) – ใช้เมื่อต้องการให้กำลังใจว่าถ้าตั้งใจจริงก็จะทำได้ เหมาะกับสถานการณ์ที่ใครสักคนกำลังท้อแท้หรือคิดว่าเป้าหมายของตนเองเป็นไปไม่ได้
  • No pain, no gain (ไม่เจ็บปวด ไม่ได้อะไร) – เตือนว่าความสำเร็จต้องแลกมาด้วยความพยายามและการเสียสละ ไม่มีทางลัดในการได้มาซึ่งสิ่งดีๆ มักใช้ในบริบทของการออกกำลังกาย การเรียน หรือการทำงานหนัก
  • Rome wasn’t built in a day (โรมไม่ได้ถูกสร้างในวันเดียว) – เตือนใจว่าสิ่งยิ• Rome wasn’t built in a day (โรมไม่ได้ถูกสร้างในวันเดียว) – เตือนใจว่าสิ่งยิ่งใหญ่ต้องใช้เวลาในการสร้างสรรค์ ใช้เมื่อต้องการบอกว่าอย่าเร่งรีบคาดหวังผลลัพธ์ทันที แต่ให้มุ่งมั่นทำต่อไปอย่างสม่ำเสมอ
  • Strike while the iron is hot (ตีเหล็กเมื่อยังร้อนอยู่) – หมายถึงการคว้าโอกาสทันทีที่มันมาถึง ไม่รอช้า เพราะโอกาสดีๆ อาจผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เหมาะกับสถานการณ์ธุรกิจหรือการตัดสินใจที่ต้องรวดเร็ว
  • The squeaky wheel gets the grease (ล้อที่ส่งเสียงดังจะได้รับการหล่อลื่น) – บอกว่าคนที่บ่นหรือขอร้องดังๆ มักจะได้รับความสนใจและความช่วยเหลือก่อน สุภาษิตนี้สะท้อนความเป็นจริงในที่ทำงานว่าบางครั้งเราต้องกล้าพูดออกมาเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
  • Many hands make light work (มือหลายคู่ทำให้งานเบา) – เน้นความสำคัญของการทำงานเป็นทีม งานที่ดูหนักหนาสาหสันจะกลายเป็นเรื่องง่ายเมื่อมีคนช่วยกันทำ ใช้เมื่อต้องการชวนคนอื่นมาช่วยงานหรือเน้นย้ำคุณค่าของการทำงานร่วมกัน
  • Jack of all trades, master of none (รู้หลายอย่างแต่ไม่เชี่ยวชาญอะไรเลย) – เตือนว่าการพยายามเก่งทุกอย่างอาจทำให้ไม่มีความเชี่ยวชาญในสิ่งใดจริงจัง บางครั้งการเน้นไปที่สิ่งเดียวจะได้ผลดีกว่า แต่ในบริบทบางอย่างก็ใช้เป็นคำชมคนที่มีความสามารถหลากหลาย
  • Don’t count your chickens before they hatch (อย่านับลูกไก่ก่อนฟัก) – เตือนไม่ให้คาดหวังหรือวางแผนกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง อย่าเพิ่งดีใจหรือใช้จ่ายเงินที่ยังไม่ได้จริง เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้
  • A stitch in time saves nine (เย็บตะเข็บเดียวทันเวลาช่วยได้เก้าตะเข็บ) – หมายถึงการแก้ไขปัญหาเล็กๆ ทันทีจะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหานั้นใหญ่โตขึ้น การดูแลบำรุงรักษาเชิงป้องกันดีกว่าการรอให้เสียหายแล้วค่อยซ่อม
  • The devil is in the details (ปีศาจอยู่ในรายละเอียด) – เตือนว่าปัญหาหรือความยากลำบากมักซ่อนอยู่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราอาจมองข้าม ต้องใส่ใจกับทุกขั้นตอนเพื่อความสำเร็จที่แท้จริง

2. หมวดชีวิตและประสบการณ์

สุภาษิต ภาษาอังกฤษในหมวดนี้สะท้อนภูมิปัญญาชีวิตที่มาจากประสบการณ์ของผู้คนหลายชั่วอายุคน เหมาะสำหรับการให้คำปรึกษาหรือแบ่งปันบทเรียนชีวิต

  • What doesn’t kill you makes you stronger (สิ่งที่ไม่ฆ่าคุณจะทำให้คุณเข้มแข็งขึ้น) – ให้กำลังใจว่าความทุกข์ยากและอุปสรรคจะทำให้เราเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ใช้เมื่อต้องการปลอบใจคนที่กำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก
  • Experience is the best teacher (ประสบการณ์คือครูที่ดีที่สุด) – บอกว่าการเรียนรู้จากการลงมือทำและผิดพลาดจริงมีค่ามากกว่าการเรียนจากหนังสือหรือคำบอกเล่า ความรู้ที่มาจากประสบการณ์ตรงจะติดทนที่สุด
  • Live and let live (มีชีวิตและปล่อยให้ผู้อื่นมีชีวิต) – สอนให้เคารพในวิถีชีวิตและความเชื่อของผู้อื่น แม้จะแตกต่างจากเรา ใช้เพื่อส่งเสริมความอดทนและการยอมรับความหลากหลาย
  • Time heals all wounds (เวลาเยียวยาทุกบาดแผล) – ให้กำลังใจว่าความเจ็บปวดทางใจจะค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลา แม้ตอนนี้จะเจ็บปวดมาก แต่ในอนาคตความรู้สึกนั้นจะเบาบางลง
  • Every cloud has a silver lining (ทุกเมฆมีขอบสีเงิน) – หมายถึงแม้ในสถานการณ์แย่ๆ ก็ยังมีด้านดีซ่อนอยู่ ช่วยให้คนมองโลกในแง่ดีและหาคุณค่าจากประสบการณ์ที่ไม่ดี
  • You reap what you sow (คุณเก็บเกี่ยวสิ่งที่คุณหว่าน) – เน้นกฎแห่งกรรม การกระทำดีจะได้ผลดี การกระทำชั่วจะได้ผลชั่ว สิ่งที่เราทำวันนี้จะกลับมาหาเราในอนาคต
  • There’s no use crying over spilled milk (ร้องไห้กับนมที่หกแล้วก็ไม่มีประโยชน์) – สอนให้ปล่อยวางสิ่งที่ผ่านไปแล้ว แทนที่จะเสียใจกับความผิดพลาดที่แก้ไม่ได้ ควรมองไปข้างหน้าและทำสิ่งที่ดีกว่า
  • The apple doesn’t fall far from the tree (แอปเปิลไม่ตกไกลจากต้น) – บอกว่าลูกมักจะมีลักษณะคล้ายพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นนิสัย ความสามารถ หรือแม้แต่ข้อบกพร่อง ใช้ทั้งในความหมายดีและไม่ดี
  • You can lead a horse to water, but you can’t make it drink (คุณพาม้าไปหาน้ำได้ แต่บังคับให้มันดื่มไม่ได้) – สอนว่าเราสามารถให้โอกาสหรือความช่วยเหลือคนอื่นได้ แต่ไม่สามารถบังคับให้เขาใช้ประโยชน์จากมันได้ การเปลี่ยนแปลงต้องมาจากตัวเขาเอง

3. หมวดความสัมพันธ์

สํานวนสุภาษิต ภาษาอังกฤษเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพ ความรัก หรือความสัมพันธ์ในครอบครัว

  • Birds of a feather flock together (นกที่มีขนสีเดียวกันบินเป็นฝูงเดียวกัน) – หมายถึงคนที่มีความสนใจหรือนิสัยคล้ายกันมักจะเข้ากันได้ดีและอยู่ด้วยกัน ใช้อธิบายว่าทำไมกลุ่มเพื่อนจึงมีความคล้ายคลึงกัน
  • Opposites attract (สิ่งตรงข้ามดึงดูดกัน) – บอกว่าคนที่แตกต่างกันมากกลับดึงดูดกันได้ โดยเฉพาะในเรื่องความรัก คนที่มีบุคลิกตรงข้ามอาจเสริมกันได้ดี
  • Absence makes the heart grow fonder (การห่างหายทำให้ใจรักมากขึ้น) – บอกว่าเมื่อเราอยู่ห่างจากคนที่รัก เรามักจะคิดถึงและรู้สึกรักมากขึ้น ระยะห่างสร้างความคิดถึง
  • Blood is thicker than water (เลือดข้นกว่าน้ำ) – เน้นว่าความผูกพันในครอบครัวแข็งแกร่งกว่าความสัมพันธ์อื่นๆ ครอบครัวควรมาก่อนเสมอ แม้ว่าจะมีปัญหากันก็ตาม
  • Two heads are better than one (สองหัวดีกว่าหนึ่งหัว) – เน้นว่าการระดมสมองหรือทำงานร่วมกันมักให้ผลลัพธ์ดีกว่าการคิดคนเดียว มุมมองที่หลากหลายช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า
  • Honesty is the best policy (ความซื่อสัตย์คือนโยบายที่ดีที่สุด) – สอนว่าการพูดความจริงเสมอจะนำมาซึ่งผลดีในระยะยาว แม้บางครั้งความจริงอาจทำให้เจ็บปวด แต่การโกหกจะสร้างปัญหามากกว่า
  • It takes two to tango (ต้องใช้คนสองคนในการเต้นแทงโก้) – บอกว่าปัญหาหรือความขัดแย้งมักมีความผิดสองฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดคนเดียว ทั้งสองคนต้องร่วมมือกันในการแก้ไข
  • A friend in need is a friend indeed (เพื่อนยามทุกข์คือเพื่อนแท้) – สอนว่าเพื่อนแท้คือคนที่อยู่เคียงข้างเราในยามยากลำบาก ไม่ใช่แค่ยามสุข คนที่ช่วยเราเมื่อเราต้องการความช่วยเหลือคือเพื่อนที่แท้จริง
  • Familiarity breeds contempt (ความคุ้นเคยก่อให้เกิดการดูถูก) – เตือนว่าเมื่อเราใกล้ชิดกับใครมากเกินไปหรือเห็นข้อบกพร่องของเขามากเกินไป เราอาจเริ่มไม่เคารพหรือชื่นชมเขาเหมือนเดิม
  • Love is blind (ความรักมืดบอด) – บอกว่าเมื่อเรารักใครเรามักจะมองไม่เห็นข้อบกพร่องของเขา ความรักทำให้เราเห็นแต่ด้านดีและปิดบังด้านไม่ดี

4. หมวดการตัดสินใจและความระมัดระวัง

สุภาษิตภาษาอังกฤษกลุ่มนี้ให้คำแนะนำเรื่องการคิดก่อนทำและการวางแผน เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องใช้วิจารณญาณ

  • Look before you leap (มองก่อนกระโดด) – เตือนให้คิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำอะไร อย่าเพิ่งเร่งรีบลงมือโดยไม่พิจารณาผลที่ตามมา การวางแผนป้องกันความผิดพลาดได้
  • Curiosity killed the cat (ความอยากรู้ฆ่าแมว) – เตือนว่าการสอดรู้สอดเห็นหรืออยากรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้อาจนำมาซึ่งปัญหา บางครั้งไม่รู้ดีกว่ารู้ ใช้เตือนคนที่ถามคำถามเกินไป
  • Better safe than sorry (ปลอดภัยดีกว่าเสียใจภายหลัง) – สอนให้ระมัดระวังและเตรียมการไว้ล่วงหน้า แม้จะดูเหมือนระมัดระวังเกินไป แต่ก็ดีกว่าต้องเสียใจเมื่อเกิดปัญหาที่ป้องกันได้
  • Don’t bite off more than you can chew (อย่ากัดมากกว่าที่เคี้ยวได้) – เตือนไม่ให้รับภาระหรือความรับผิดชอบมากเกินกว่าที่จะจัดการได้ การทำมากเกินไปพร้อมกันจะทำให้ทุกอย่างพัง
  • Beggars can’t be choosers (คนขอทานเลือกไม่ได้) – บอกว่าเมื่อเราอยู่ในฐานะที่ต้องการความช่วยเหลือ เราไม่ควรจู้จี้จุกจิกหรือเลือกมากนัก ควรขอบคุณในสิ่งที่ได้รับ
  • All that glitters is not gold (ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เปล่งประกายจะเป็นทองคำ) – เตือนว่าสิ่งที่ดูดีภายนอกอาจไม่ได้มีคุณค่าจริง อย่าหลงเชื่อสิ่งที่ดูน่าสนใจจนลืมตรวจสอบความจริง
  • Let sleeping dogs lie (ปล่อยให้สุนัขที่นอนหลับอยู่เฉยๆ) – แนะนำไม่ให้ไปกระทบหรือพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วและอาจก่อปัญหา บางครั้งการปล่อยให้เรื่องเก่าเงียบไปเป็นทางออกที่ดีที่สุด
  • A bird in the hand is worth two in the bush (นกหนึ่งตัวในมือดีกว่านกสองตัวในพุ่มไม้) – สอนให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่แล้ว อย่าทิ้งสิ่งที่แน่นอนเพื่อไล่ตามสิ่งที่ยังไม่แน่นอน ความมั่นคงมีค่ากว่าความเสี่ยง
  • Don’t burn your bridges (อย่าเผาสะพานของคุณ) – เตือนไม่ให้ทำลายความสัมพันธ์หรือปิดทางออกของตัวเอง เพราะเราอาจต้องกลับมาใช้เส้นทางนั้นอีกในอนาคต รักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้เสมอ
  • When the cat’s away, the mice will play (เมื่อแมวไม่อยู่ หนูก็จะเล่น) – บอกว่าเมื่อไม่มีใครคอยดูแลหรือควบคุม คนมักจะประพฤติผิดหรือทำตามใจตัวเอง ใช้อธิบายพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเมื่อไม่มีหัวหน้า

5. หมวดความอดทนและความพยายาม

สุภาษิตเหล่านี้ให้กำลังใจและสอนเรื่องความมุ่งมั่น เหมาะสำหรับการสร้างแรงบันดาลใจ

  • Slow and steady wins the race (ช้าแต่สม่ำเสมอชนะการแข่งขัน) – สอนว่าการทำงานอย่างต่อเนื่องและมั่นคงดีกว่าการเร่งรีบแต่ไม่ยั่งยืน มาจากนิทานกระต่ายกับเต่า
  • If at first you don’t succeed, try, try again (ถ้าครั้งแรกไม่สำเร็จ ก็ลองใหม่อีก) – ให้กำลังใจว่าความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ การลองใหม่หลายครั้งจนกว่าจะสำเร็จคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
  • Necessity is the mother of invention (ความจำเป็นคือแม่ของการประดิษฐ์) – บอกว่าเมื่อเราจำเป็นต้องการอะไรจริงๆ เราจะหาทางแก้ปัญหาหรือสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาได้ ปัญหาผลักดันให้เกิดนวัตกรรม
  • The best things in life are free (สิ่งดีที่สุดในชีวิตไม่มีราคา) – เตือนให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน เช่น ความรัก มิตรภาพ และความสุข เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต
  • Hope for the best, prepare for the worst (หวังในสิ่งที่ดีที่สุด เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่แย่ที่สุด) – สอนให้มีทัศนคติเชิงบวกแต่ก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ดีด้วย ความหวังควรมาพร้อมความพร้อม
  • Fortune favors the bold (โชคชะตาเข้าข้างคนกล้า) – ให้กำลังใจว่าคนที่กล้าเสี่ยงและกล้าลองสิ่งใหม่มักจะได้รับโอกาสดีๆ การกล้าตัดสินใจเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ
  • A rolling stone gathers no moss (หินกลิ้งไม่เกาะตะไคร่) – มีสองความหมาย หนึ่งคือคนที่เคลื่อนไหวอยู่เสมอจะไม่หยุดนิ่งพอที่จะสะสมอะไร อีกความหมายคือคนที่ไม่หยุดนิ่งจะไม่ค้างกับปัญหาเก่าๆ
  • You miss 100% of the shots you don’t take (คุณพลาดทุกลูกที่ไม่ยิง) – ให้กำลังใจว่าถ้าไม่ลอง คุณจะไม่มีโอกาสสำเร็จเลย แม้การลองอาจล้มเหลว แต่ก็ดีกว่าไม่ลองเลย
  • It’s no use closing the stable door after the horse has bolted (ปิดประตูคอกหลังม้าหนีไปแล้วไม่มีประโยชน์) – เตือนให้ป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิด การแก้ไขหลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้วมักจะสายเกินไป
  • Great minds think alike (คนเก่งคิดเหมือนกัน) – ใช้เมื่อคุณและคนอื่นคิดหรือทำอะไรเหมือนกันโดยบังเอิญ เป็นการพูดแบบขำขันว่าทั้งสองคนฉลาดเหมือนกัน

IV. ถาม-ตอบข้อสงสัย (FAQ): เคลียร์ทุกประเด็นเกี่ยวกับสุภาษิต

1. “Proverb”, “Idiom”, และ “Saying” ต่างกันอย่างไร?

หลายคนมักสับสนระหว่างคำศัพท์ทั้งสามนี้ เพราะดูเหมือนจะหมายถึงสิ่งเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างที่ชัดเจน การเข้าใจความแตกต่างจะช่วยให้คุณใช้คำศัพท์เหล่านี้ได้ถูกต้องมากขึ้น

คำศัพท์ นิยามสั้นๆ ตัวอย่าง
Proverb (สุภาษิต) ประโยคสั้นที่ให้คำแนะนำหรือสอนบทเรียนชีวิต มักเป็นสัจธรรมที่ได้รับการยอมรับทั่วไป “Actions speak louder than words” (การกระทำดังกว่าคำพูด)
Idiom (สำนวน) กลุ่มคำที่มีความหมายแฝงซึ่งไม่สามารถเดาได้จากคำแต่ละคำ ไม่จำเป็นต้องสอนบทเรียน “It’s raining cats and dogs” (ฝนตกหนัก) ไม่มีแมวหรือสุนัขตกจากท้องฟ้าจริงๆ
Saying (คำพูด/คำกล่าว) คำพูดที่คนนิยมพูดกันบ่อยๆ ครอบคลุมทั้ง proverbs, idioms และวลีทั่วไป “Easy come, easy go” (ได้ง่ายหายง่าย) หรือ “No worries” (ไม่ต้องห่วง)

ความแตกต่างหลักคือ proverb มักจะสอนบทเรียนหรือให้ข้อคิด ในขณะที่ idiom เป็นเพียงวิธีการพูดที่มีความหมายพิเศษ ส่วน saying เป็นคำที่กว้างที่สุด ครอบคลุมทุกอย่างที่คนพูดกันเป็นประจำ

2. สุภาษิตอังกฤษทุกอันยังใช้ในปัจจุบันจริงหรือไม่?

ไม่จริง ภาษาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บางสุภาษิตที่เคยนิยมในอดีตกลับไม่ค่อยถูกใช้ในปัจจุบัน เพราะอาจฟังดูเชย ล้าสมัย หรือไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตยุคใหม่ ตัวอย่างเช่น สุภาษิต “Haste makes waste” (การเร่งรีบทำให้เสียของ) ยังคงถูกต้องในแง่ความหมาย แต่คนรุ่นใหม่อาจใช้วลีที่ทันสมัยกว่าอย่าง “Slow down and do it right” (ทำช้าลงและทำให้ถูกต้อง) แทน

อีกตัวอย่างคือ “A penny saved is a penny earned” (เงินที่ประหยัดได้คือเงินที่หาได้) ซึ่งอาจฟังดูล้าสมัยในยุคที่เงินเฟ้อสูงและค่าเงินเปลี่ยนไปมาก คนรุ่นใหม่อาจใช้แนวคิดเรื่องการลงทุนมากกว่าการเก็บออมอย่างเดียว ดังนั้น ก่อนใช้สุภาษิตใดๆ คุณควรตรวจสอบว่ามันยังคงถูกใช้ในบริบทปัจจุบันหรือไม่ โดยการฟังจากสื่อต่างๆ อย่างภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือพอดแคสต์

3. สุภาษิตมีที่มาจากไหนบ้าง?

สุภาษิตภาษาอังกฤษมีต้นกำเนิดจากหลากหลายแหล่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของภาษาอังกฤษ

  • คัมภีร์ไบเบิล – สุภาษิตจำนวนมากมาจากคัมภีร์ไบเบิล เช่น “An eye for an eye” (ตาต่อตา), “The writing is on the wall” (ป้ายเตือนชัดเจน) หรือ “Don’t cast pearls before swine” (อย่าโยนไข่มุกให้สุกร) ซึ่งสะท้อนอิทธิพลของศาสนาคริสต์ในสังคมตะวันตก
  • วรรณกรรมของเชกสเปียร์ – นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่อย่างเชกสเปียร์สร้างสำนวนและสุภาษิตมากมายที่ยังใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เช่น “All that glitters is not gold” (ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เปล่งประกายจะเป็นทองคำ) จากบทละคร The Merchant of Venice
  • วัฒนธรรมการเกษตร – สุภาษิตหลายอันมาจากชีวิตเกษตรกรรมในอดีต เช่น “Don’t put all your eggs in one basket” (อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าเดียว), “Make hay while the sun shines” (ทำฟางตอนแดดออก) หรือ “You reap what you sow” (เก็บเกี่ยวสิ่งที่หว่าน)
  • ภูมิปัญญาพื้นบ้าน – บางสุภาษิตถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นโดยไม่มีใครรู้ที่มาแน่ชัด เป็นเพียงคำสอนที่ผ่านการทดสอบกาลเวลาและยังคงมีคุณค่า
  • วัฒนธรรมจากประเทศอื่น – บางสุภาษิตถูกนำเข้ามาจากภาษาลาตินหรือภาษาฝรั่งเศส เช่น “Carpe diem” (จงใช้ชีวิตในวันนี้) จากภาษาลาติน หรือถูกดัดแปลงจากสุภาษิตของวัฒนธรรมอื่นๆ

4. การใช้สุภาษิตในการเขียนเชิงวิชาการกับการสนทนาต่างกันอย่างไร?

การใช้สุภาษิตในสองบริบทนี้มีความแตกต่างที่สำคัญ ซึ่งคุณควรทราบเพื่อไม่ให้ใช้ผิดที่ผิดทาง

ในการเขียนเชิงวิชาการ สุภาษิตถูกใช้อย่างจำกัดและระมัดระวัง เพราะการเขียนเชิงวิชาการต้องการความชัดเจน เฉพาะเจาะจง และมีหลักฐานสนับสนุน การใช้สุภาษิตอาจดูเหมือนการหลีกเลี่ยงการอธิบายที่ละเอียด หรือพึ่งพาคติความเชื่อทั่วไปแทนการใช้เหตุผล อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้อย่างเหมาะสม สุภาษิตสามารถเป็นเครื่องมือที่ดีในการสรุปแนวคิดที่ซับซ้อนหรือเปิดหัวข้อใหม่ เช่น การเริ่มบทความด้วย “As the saying goes, ‘Knowledge is power’…” (ตามคำกล่าวที่ว่า ความรู้คืออำนาจ…) เพื่อนำเข้าสู่หัวข้อเรื่องการศึกษา แต่หลังจากนั้นต้องมีการวิเคราะห์และอธิบายอย่างละเอียดต่อไป

ในการสนทนา สุภาษิตถูกใช้บ่อยกว่าและเป็นธรรมชาติกว่ามาก ผู้คนใช้สุภาษิตเพื่อสื่อสารอย่างรวดเร็ว สร้างความเข้าใจร่วมกัน หรือเพิ่มอารมณ์ขันในบทสนทนา การพูดคุยไม่ต้องการความเป็นทางการมากเหมือนการเขียน และสุภาษิตช่วยให้การสนทนาดูมีสีสันและน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ การใช้สุภาษิตในการพูดยังแสดงให้เห็นว่าคุณมีความเข้าใจภาษาในระดับที่ลึกกว่าการพูดธรรมดา ทำให้ผู้ฟังประทับใจและเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการสื่อได้ชัดเจนขึ้น

สุภาษิตภาษาอังกฤษคือมากกว่าแค่ประโยคสวยหรูที่ใช้ตกแต่งภาษา มันคือรหัสวัฒนธรรมที่ซ่อนความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีชีวิต ค่านิยม และภูมิปัญญาของผู้คนที่พูดภาษาอังกฤษมาหลายชั่วอายุคน เมื่อคุณเข้าใจสุภาษิต คุณไม่ได้เพียงแค่เพิ่มคำศัพท์ในคลังภาษาของตัวเอง แต่คุณกำลังเปิดประตูสู่การเข้าใจวิธีคิดของคนในวัฒนธรรมนั้นๆ ตอนนี้คุณมีกุญแจสำหรับไขรหัสเหล่านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น 10 สุภาษิตพื้นฐานที่จำเป็น สุภาษิตแบ่งตามสถานการณ์ต่างๆ หรือการเปรียบเทียบกับสำนวนไทยที่คุณคุ้นเคย

การเรียนรู้ 101 สุภาษิตในบทความนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น สิ่งสำคัญคือการนำไปใช้ในชีวิตจริง อย่าให้ความรู้เหล่านี้กลายเป็นแค่ข้อมูลที่นอนเฉยในหัว แต่จงทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของภาษาที่คุณใช้ทุกวัน การใช้สุภาษิตอย่างเหมาะสมจะทำให้การสื่อสารของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟังดูเป็นธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษา และที่สำคัญคือทำให้คุณเข้าใจเนื้อหาภาษาอังกฤษต่างๆ ได้ลึกซึ้งขึ้น

Nalinee (นลินี)
Nalinee (นลินี)https://toeicmentor.com
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ Nalinee (นลินี) ผู้ดูแลเนื้อหาเว็บไซต์ Toeicmentor.com แพลตฟอร์มออนไลน์ที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้เรียน TOEIC ในประเทศไทยโดยเฉพาะ ฉันมีหน้าที่คัดสรรและจัดการเนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เรียนจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจง่าย และอัปเดตล่าสุดอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือกำลังเตรียมสอบเพื่อคะแนนที่สูงขึ้น Toeicmentor.com พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดในทุกขั้นตอนของการเรียนรู้ TOEIC ของคุณ

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

โพสต์ใหม่

ครบเครื่องเรื่องสำนวนอาหาร: คู่มือเปรียบเทียบสำนวนไทย-อังกฤษ พร้อมความหมาย ที่มา และวิธีใช้ให้เหมือนเจ้าของภาษา

สำนวนที่เกี่ยวข้องกับอาหารไม่ได้เป็นเพียงวลีสวยหรูที่ใช้ตกแต่งประโยค แต่เป็นหน้าต่างที่เปิดให้เห็นวิถีชีวิต ความเชื่อ และภูมิปัญญาของผู้คนในแต่ละดินแดน เมื่อคนไทยพูดว่า "เอาแป้งมาโรยหน้า" หรือคนอังกฤษใช้คำว่า...

150+ คำตรงข้าม ภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล-ตัวอย่าง

คุณกำลังมองหา คำตรงข้าม ภาษาอังกฤษ ที่ครบถ้วนและใช้งานได้จริงอยู่ใช่ไหม? บทความนี้รวบรวม 150+ Antonyms...

คลังศัพท์อังกฤษขั้นเทพ: 500+ คำศัพท์ภาษาอังกฤษยากๆ พร้อมคำแปลไทยและวิธีใช้ (สำหรับสอบ, ทำงาน, และใช้ในชีวิตจริง)

คุณอาจกำลังเตรียมตัวสอบ IELTS, TOEFL หรืออยากให้การสื่อสารในที่ทำงานดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น บทความนี้จะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ช่วยให้คุณก้าวข้ามอุปสรรคด้านคำศัพท์ได้อย่างมั่นใจ การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษยากๆไม่ใช่แค่การท่องจำคำยาวๆ ให้ได้...