TOEIC Vocabularyวิธีพูด "คุณเป็นอย่างไรบ้าง" ภาษาอังกฤษฉบับสมบูรณ์ (พร้อมวิธีตอบและตัวอย่าง)

วิธีพูด “คุณเป็นอย่างไรบ้าง” ภาษาอังกฤษฉบับสมบูรณ์ (พร้อมวิธีตอบและตัวอย่าง)

หลายคนคงเคยติดอยู่ในสถานการณ์ที่ถามคำถามเดิมๆ ทุกครั้ง เช่น “How are you?” แล้วรอรับคำตอบที่คาดเดาได้ว่า “I’m fine, thank you” การทักทายแบบนี้อาจจะปลอดภัยและใช้ได้กับทุกสถานการณ์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้บทสนทนาของคุณโดดเด่นหรือสร้างความประทับใจได้เท่าที่ควร การเรียนรู้ คุณเป็นอย่างไรบ้าง ภาษาอังกฤษ ในรูปแบบที่หลากหลายจะทำให้คุณสามารถปรับใช้ตามบริบทต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการพบปะในที่ทำงาน การสนทนากับเพื่อนสนิท หรือแม้แต่การแชทกับคนที่เพิ่งรู้จักครั้งแรก บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวลีทักทายที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมวิธีการตอบกลับที่ฟังดูเป็นธรรมชาติ และเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณสร้างความมั่นใจในการเริ่มต้นบทสนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างมืออาชีพ

I. “How are you?” ประโยคคลาสสิกที่ใช้ได้เสมอ

เมื่อพูดถึง how are you แปลว่า “คุณเป็นอย่างไรบ้าง” หรือ “คุณสบายดีไหม” ประโยคนี้ถือเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการพบปะในที่ทำงาน การสนทนากับคนแปลกหน้า หรือแม้แต่การทักทายคนที่รู้จักกันมานาน การใช้ “How are you?” เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและแสดงความสุภาพได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับการตอบกลับที่เหมาะสมที่สุด คุณสามารถใช้ประโยคง่ายๆ เช่น “I’m good, thank you” (ผมสบายดีครับ ขอบคุณ) หรือ “I’m doing well, thanks” (ฉันสบายดีค่ะ ขอบคุณ) ซึ่งเป็นคำตอบที่เป็นมิตรและมีมารยาทในเวลาเดียวกัน หากต้องการให้ดูสนิทสนมมากขึ้น คุณอาจเพิ่มคำถามกลับไปว่า “And you?” เพื่อแสดงความใส่ใจและสร้างการสนทนาที่ต่อเนื่อง

II. รวมวลีถาม “สบายดีไหม” ตามสถานการณ์

การเลือกใช้วลีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความสัมพันธ์ที่คุณมีกับคนที่สนทนาด้วย เรามาดูวลีต่างๆ ที่จัดแบ่งตามระดับความเป็นทางการเพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม

1. กลุ่มที่ 1: สถานการณ์สุภาพและเป็นทางการ (Formal & Professional)

เหมาะสำหรับ: หัวหน้า, ลูกค้า, ผู้ใหญ่, การประชุมธุรกิจ, อีเมลทางการ

วลีภาษาอังกฤษ ความหมาย ระดับความเป็นทางการ เวลาที่เหมาะสม
How are you? คุณเป็นอย่างไรบ้าง เป็นทางการมาก ใช้ได้ทุกสถานการณ์ทางการ
How are you doing? คุณเป็นอย่างไรบ้าง (แบบใส่ใจ) เป็นทางการ-กลาง การพบปะลูกค้า หัวหน้า
How have you been? คุณเป็นอย่างไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา เป็นทางการ ไม่ได้พบกันนาน
How are you today? วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง เป็นทางการ เริ่มต้นการประชุม อีเมล

คำอธิบายเชิงลึก:

How are you doing? แปลว่า คุณเป็นอย่างไรบ้าง ภาษาอังกฤษ ในแบบที่แสดงความใส่ใจมากกว่าประโยคพื้นฐาน วลีนี้เหมาะสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าหรือหัวหน้างาน เพราะแสดงให้เห็นว่าคุณสนใจในสภาวะปัจจุบันของอีกฝ่ายอย่างจริงจัง

  • ตัวอย่าง: “Good morning, Mr. Thompson. How are you doing today?”
  • คำแปล: สวัสดีตอนเช้าครับคุณธอมป์สัน วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้างครับ

How have you been? เป็นวลีที่เหมาะสำหรับการพบปะคนที่ห่างหายกันไปสักพัก แสดงให้เห็นว่าคุณสนใจในชีวิตของเขาตลอดช่วงเวลาที่ไม่ได้พบกัน ประโยคนี้ใช้ Present Perfect Tense เพื่อเน้นย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาในอดีตจนถึงปัจจุบัน

  • ตัวอย่าง: “It’s been three months since our last meeting. How have you been?”
  • คำแปล: เราไม่ได้เจอกันมาสามเดือนแล้วนะ คุณเป็นอย่างไรบ้างครับ

2. กลุ่มที่ 2: สถานการณ์เพื่อนและคนคุ้นเคย (Casual & Friendly)

เหมาะสำหรับ: เพื่อนร่วมงาน, คนรู้จักทั่วไป, การสนทนาในชีวิตประจำวัน

วลีภาษาอังกฤษ ความหมาย ความถี่ในการใช้ บริบทการใช้งาน
How’s it going? เป็นยังไงบ้าง ใช้บ่อยมาก  ทักทายประจำวัน ร้านกาแฟ ลิฟต์
How are things? เป็นไงบ้าง (ถามชีวิตโดยรวม) ใช้บ่อย  สนทนากับคนคุ้นเคย
What’s new? มีอะไรใหม่ไหม ใช้ปานกลาง  ต้องการฟังอัปเดต
How’s everything? ทุกอย่างเป็นไงบ้าง ใช้บ่อย  ถามแบบกว้างๆ
How’s your day? วันนี้เป็นไง ใช้บ่อย  ปลายวัน หรือตอนเย็น

คำอธิบายเชิงลึก:

How’s it going? เป็นวลีที่ใช้บ่อยที่สุดในชีวิตประจำวัน โดยแปลว่า เป็นยังไงบ้าง ภาษาอังกฤษ หรือ “เป็นไงบ้าง” คุณอาจได้ยินประโยคนี้ตั้งแต่ตอนเช้าที่ร้านกาแฟไปจนถึงการเจอเพื่อนร่วมงานในลิฟต์ วลีนี้เป็นมิตรและไม่เป็นทางการเกินไป

  • วิธีตอบ: “Good! How about you?” (ดีนะ แล้วเธอล่ะ) หรือ “Not bad!” (ก็ไม่เลว)

How are things? ถามถึงสภาวะชีวิตโดยรวม ไม่ได้เจาะจงไปที่ความรู้สึกหรือสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงงาน ครอบครัว และเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต

  • ตัวอย่าง: “Hey Sarah! How are things at the new office?”
  • คำแปล: เฮ้ ซาร่า ที่ออฟฟิศใหม่เป็นไงบ้าง

What’s new? เป็นวลีที่ต้องการให้คุณเล่าเรื่องราวหรือข้อมูลที่น่าสนใจ ไม่ใช่แค่การตอบว่าสบายดีหรือไม่เท่านั้น เมื่อมีคนถามประโยคนี้ พวกเขาอาจต้องการฟังเรื่องราวอัปเดตจากคุณ

  • วิธีตอบ: “Actually, I just started learning Spanish!” (จริงๆ แล้วฉันเพิ่งเริ่มเรียนภาษาสเปนเลย)

3. กลุ่มที่ 3: สถานการณ์เพื่อนสนิทและไม่เป็นทางการ (Informal & Slang)

เหมาะสำหรับ: เพื่อนสนิท, พี่น้อง, คนที่สนิทสนมมาก

วลีภาษาอังกฤษ ความหมาย วัฒนธรรม ลักษณะพิเศษ
What’s up? ว่าไง / เป็นไง อเมริกัน 🇺🇸 ไม่ต้องตอบยาว
You alright? สบายดีไหม (ทักทาย) อังกฤษ 🇬🇧 ไม่ได้ถามว่าป่วย
How you doing? เป็นไง (แบบสั้น) อเมริกัน 🇺🇸 ตัด “are” ออก
Sup? ว่าไง สแลง ย่อมาจาก What’s up
How’s life? ชีวิตเป็นไง ทั่วไป ถามแบบกว้างๆ

คำอธิบายเชิงลึก:

What’s up? เป็นวลีที่นิยมใช้กันมากในหมู่เพื่อนสนิท โดยเฉพาะในวัฒนธรรมอเมริกัน แม้จะฟังดูเหมือนเป็นคำถาม แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงการทักทายที่ไม่ได้คาดหวังคำตอบที่ยาวเป็นพิเศษ

วิธีตอบที่ถูกต้อง:

  • “Not much” (ไม่มีอะไรมากเลย)
  • “Nothing much, you?” (ก็ไม่มีอะไรเลย แล้วเธอล่ะ)
  • “Hey!” (เฮ้!)
  • แค่พยักหน้าหรือโบกมือก็ได้

You alright? เป็นสำนวนแบบอังกฤษ (British) ที่ใช้เป็นคำทักทายทั่วไป สิ่งสำคัญคือ ประโยคนี้ไม่ได้หมายความว่ากำลังถามว่าคุณไม่สบายหรือมีปัญหาอะไร แต่เป็นเพียงการทักทายเหมือนกับ how are you เท่านั้น

  • วิธีตอบ: “Yeah, you?” (ครับ แล้วคุณล่ะ) หรือ “Alright, thanks” (สบายดีครับ ขอบคุณ)
  • ข้อควรระวัง: อย่าตกใจว่าทำไมถึงถามว่าเราไม่สบายหรือเปล่า เพราะนี่เป็นเพียงวิธีทักทายตามธรรมเนียม

III. ตอบกลับอย่างไรให้ดูโปรและเป็นธรรมชาติ

ตอบกลับอย่างไรให้ดูโปรและเป็นธรรมชาติ

การตอบกลับเมื่อมีคนถามว่า คุณสบายดีไหม ภาษาอังกฤษ มีหลายระดับตั้งแต่เชิงบวกมากไปจนถึงกลางๆ ขึ้นอยู่กับความรู้สึกจริงของคุณในวันนั้น มาดูตัวเลือกที่หลากหลายพร้อมคำแนะนำการใช้งาน

1. การตอบกลับเชิงบวก (Positive Responses)

เหมาะสำหรับ: วันที่รู้สึกดี มีพลัง มีความสุข หรือต้องการสร้างบรรยากาศเชิงบวก

คำตอบภาษาอังกฤษ ความหมายภาษาไทย ระดับความกระตือรือร้น สถานการณ์ที่เหมาะสม
I’m great! ผม/ดิฉันเยี่ยมมากเลย สูงมาก  วันที่มีความสุขมาก, ได้ข่าวดี
Couldn’t be better! ดีที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้ สูงมาก  เมื่อทุกอย่างเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ
I’m doing really well ผม/ดิฉันสบายดีมากเลย สูง  ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
Pretty good! ดีนะ / ดีเลย กลาง  ใช้ได้ทุกวัน, เป็นธรรมชาติ
I’m good, thanks ผม/ดิฉันสบายดีครับ/ค่ะ กลาง  คำตอบมาตรฐานที่ปลอดภัย
Can’t complain! ไม่มีอะไรจะบ่นนะ / ดีอยู่ กลาง-สูง  แสดงความพอใจไม่เกินจริง
Never been better ดีที่สุดเท่าที่เคย สูงมาก  เมื่อชีวิตดีมากในช่วงนั้น

ตัวอย่างการใช้งานจริง:

A: “Hey! How are you doing?”

B: “I’m great! I just got promoted yesterday.”

การแปล: 

A: เฮ้ เป็นไงบ้าง

B: เยี่ยมเลย ผมเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งเมื่อวานนี้

A: “How’s it going?”

B: “Pretty good! Just finished a big project.”

การแปล:

A: เป็นไงบ้าง

B: ดีเลย เพิ่งทำโปรเจกต์ใหญ่เสร็จพอดี

เคล็ดลับ: เมื่อตอบแบบเชิงบวก ควรเพิ่มรายละเอียดสั้นๆ เพื่อทำให้บทสนทนาดูสมบูรณ์และเป็นธรรมชาติมากขึ้น

2. การตอบกลับแบบกลางๆ (Neutral Responses)

เหมาะสำหรับ: วันที่รู้สึกเฉยๆ ธรรมดา หรือไม่แย่แต่ก็ไม่ดีมาก

คำตอบภาษาอังกฤษ ความหมายภาษาไทย ความจริงใจ เมื่อไหร่ควรใช้
Not too bad ก็ไม่เลวนะ / พอใช้ได้ สูง ✓✓✓ วันธรรมดาทั่วไป
Same old, same old ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ สูงมาก ✓✓✓✓ ชีวิตเป็นไปตามปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยน
Hanging in there ก็พยายามอยู่นะ กลาง ✓✓ มีความท้าทายแต่ยังจัดการได้
Can’t complain ก็ไม่มีอะไรจะบ่น สูง ✓✓✓ ชีวิตปกติดี ไม่มีปัญหา
Alright ก็โอเคนะ กลาง ✓✓ สไตล์อังกฤษ (British)
Fair to middling ก็พอใช้ได้ กลาง ✓✓ สำนวนเก่า ใช้น้อยในปัจจุบัน
So-so ก็ปานกลาง กลาง ✓✓ เข้าใจง่าย แต่ดูเป็นทางการน้อย

ตัวอย่างบทสนทนาที่สมจริง:

A: “How have you been?”

B: “Not too bad. Work’s been busy, but I’m managing.”

การแปล:

A: ช่วงนี้เป็นไงบ้าง

B: ก็ไม่เลวนะ งานยุ่งหน่อย แต่ก็จัดการได้อยู่

A: “What’s up?”

B: “Same old, same old. Nothing exciting happening.”

การแปล:

A: ว่าไง

B: ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น

ข้อสังเกต: การตอบแบบกลางๆ เป็นเรื่องปกติและแสดงความซื่อสัตย์ คนเจ้าของภาษาไม่ได้คาดหวังให้คุณตอบว่าดีเสมอไป

3. การตอบกลับเมื่อไม่ค่อยดี (Honest but Polite Responses)

เหมาะสำหรับ: เมื่อคุณต้องการแสดงความจริงใจโดยไม่ต้องละเอียดเกินไป

คำตอบภาษาอังกฤษ ความหมายภาษาไทย ระดับความใกล้ชิด คำแนะนำ
I’ve been better เคยดีกว่านี้นะ สนิทปานกลาง อ่อนโยน ไม่เน้นเรื่องลบมาก
Not great, to be honest พูดตามตรงก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สนิท ใช้กับคนที่ใกล้ชิด
It’s been a tough week สัปดาห์นี้หนักหน่อย สนิท อธิบายสถานการณ์โดยไม่บ่น
Could be better ก็น่าจะดีกว่านี้ได้นะ ทั่วไป ไม่เฉพาะเจาะจงว่าแย่ยังไง

ข้อควรระวัง:

  • ใช้คำตอบเหล่านี้กับคนที่คุณสนิทหรือในบริบทที่เหมาะสม
  • หากคุยกับหัวหน้าหรือลูกค้า ควรเลือกคำตอบที่เป็นกลางมากกว่า
  • ไม่ควรละเอียดเกินไปหากไม่มีเวลาสนทนาต่อ

ตัวอย่าง:

A: “How are you doing?”

B: “I’ve been better, actually. Been working on a challenging project.”

การแปล:

A: เป็นไงบ้าง

B: เคยดีกว่านี้นะ กำลังทำโปรเจกต์ที่ท้าทายอยู่

4. เทคนิคการถามกลับ: แสดงมารยาทและความใส่ใจ

หลังจากตอบคำถามแล้ว การถามกลับเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บทสนทนาดูมีมารยาทและเป็นไปสองทาง

ตารางเปรียบเทียบวิธีถามกลับ

วลีภาษาอังกฤษ ความหมาย ระดับความเป็นทางการ ข้อแตกต่างสำคัญ
And you? แล้วคุณล่ะ กลาง สั้น รวดเร็ว ใช้บ่อยที่สุด
How about you? แล้วคุณล่ะ / คุณเป็นไง ไม่เป็นทางการ เป็นกันเอง ใช้ได้หลายบริบท
And yourself? แล้วคุณล่ะ เป็นทางการ สุภาพมาก เหมาะกับผู้ใหญ่
What about you? แล้วคุณล่ะ ไม่เป็นทางการ คล้าย How about you?
You? คุณล่ะ ไม่เป็นทางการมาก สั้นมาก ใช้กับเพื่อนสนิท

โครงสร้างประโยคที่สมบูรณ์

[คำตอบของคุณ] + [คำถามกลับ]

ตัวอย่าง:

✓ “I’m good, thanks. And you?”

✓ “Pretty good! How about you?”

✓ “Not too bad. How are things with you?”

✓ “I’m doing well, thank you. And yourself?”

กรณีพิเศษ: เมื่อต้องการสนทนาต่อ

สถานการณ์ วิธีถามกลับที่ดีกว่า ตัวอย่าง
ต้องการถามเฉพาะเจาะจง How’s [specific thing] going? “How’s the new job going?”
ไม่ได้เจอกันนาน What have you been up to? “What have you been up to lately?”
รู้ว่าเขากำลังทำอะไร How’s [project/event]? “How’s your presentation going?”
ต้องการรายละเอียด How are things with [topic]? “How are things with your family?”

IV. คำถามที่พบบ่อยและเกร็ดความรู้เพิ่มเติม (FAQ & Advanced Insights)

1. “How do you do?” ยังใช้กันอยู่ไหม และตอบอย่างไร

How do you do? เป็นวลีทักทายแบบเก่าแก่ที่ใช้ในสถานการณ์เป็นทางการมากเมื่อพบกันครั้งแรก แม้จะไม่ได้นิยมใช้กันมากในชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่ แต่คุณอาจจะได้ยินในงานอีเวนต์ทางธุรกิจที่เป็นทางการหรือในวัฒนธรรมอังกฤษดั้งเดิม สิ่งที่น่าสนใจคือวิธีตอบที่ถูกต้องตามธรรมเนียมไม่ใช่การบอกว่าคุณสบายดี แต่คุณต้องตอบกลับด้วย “How do you do?” เช่นกัน ซึ่งอาจฟังดูแปลกสำหรับคนไทย แต่นี่คือวิธีที่ยอมรับในระเบียบการสนทนาแบบเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่แน่ใจ การใช้ “Nice to meet you” (ยินดีที่ได้รู้จัก) ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมเช่นกัน

2. ประโยคไหนที่ “ปลอดภัย” ที่สุดสำหรับใช้กับคนแปลกหน้า

เมื่อคุณไม่แน่ใจว่าควรใช้วลีไหนกับคนที่เพิ่งพบครั้งแรก คำตอบที่ดีที่สุดคือ How are you? หรือ How are you doing? ทั้งสองวลีนี้เป็นที่ยอมรับในทุกวัฒนธรรมและทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน งานสังสรรค์ หรือการพบปะทางธุรกิจ หากต้องการดูสุภาพและเป็นมืออาชีพ คุณควรเพิ่ม “today” ต่อท้ายเพื่อแสดงความใส่ใจในวันนั้นโดยเฉพาะ เช่น how are you doing today แปลว่า “วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง” ซึ่งจะทำให้การทักทายของคุณดูอบอุ่นและใส่ใจมากขึ้น การเลือกใช้วลีเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างความประทับใจแรกที่ดีและเปิดโอกาสสำหรับการสนทนาที่ราบรื่นต่อไป

3. ความแตกต่างระหว่าง “How’s it going?” กับ “How are you doing?”

แม้ทั้งสองวลีจะแปลได้ใกล้เคียงกันว่า “เป็นอย่างไรบ้าง” แต่มีความแตกต่างเล็กน้อยที่น่าสนใจในการใช้งาน How’s it going? มักถามถึงเรื่องราวหรือสถานการณ์ทั่วไปในชีวิต เหมาะสำหรับการทักทายแบบสบายๆ และไม่ได้ต้องการคำตอบที่จริงจังมาก คุณอาจได้ยินวลีนี้บ่อยครั้งในที่ทำงาน ร้านกาแฟ หรือในลิฟต์ ส่วน How are you doing? อาจเน้นไปที่ความรู้สึกหรือสภาพจิตใจมากกว่าเล็กน้อย แม้ความแตกต่างจะไม่ได้มีนัยสำคัญมากในการใช้งานจริง แต่การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณเลือกใช้วลีที่เหมาะสมกับบริบทและความสัมพันธ์ที่คุณมีกับคนที่คุยด้วย

การเรียนรู้วิธีพูด คุณเป็นอย่างไรบ้าง ภาษาอังกฤษ ในรูปแบบที่หลากหลายไม่ใช่แค่การจำประโยคให้มากขึ้น แต่เป็นการเปิดโอกาสให้คุณสร้างการสนทนาที่เป็นธรรมชาติและสร้างความประทับใจได้อย่างแท้จริง การเลือกใช้วลีที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์และความสัมพันธ์จะช่วยให้คุณดูเป็นมืออาชีพในที่ทำงาน เป็นมิตรกับเพื่อนฝูง และเข้าใจวัฒนธรรมการสนทนาของเจ้าของภาษาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จงจำไว้ว่าการทักทายที่ดีคือกุญแจสำคัญในการเริ่มต้นบทสนทนาที่ประสบความสำเร็จ และความมั่นใจที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อคุณลงมือปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน ดังนั้น อย่ากลัวที่จะลองใช้วลีใหม่ๆ ที่คุณเพิ่งเรียนรู้ เพราะทุกครั้งที่คุณเปิดปากพูดคือการฝึกฝนที่จะนำคุณไปสู่การสื่อสารภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

Nalinee (นลินี)
Nalinee (นลินี)https://toeicmentor.com
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ Nalinee (นลินี) ผู้ดูแลเนื้อหาเว็บไซต์ Toeicmentor.com แพลตฟอร์มออนไลน์ที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้เรียน TOEIC ในประเทศไทยโดยเฉพาะ ฉันมีหน้าที่คัดสรรและจัดการเนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เรียนจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจง่าย และอัปเดตล่าสุดอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือกำลังเตรียมสอบเพื่อคะแนนที่สูงขึ้น Toeicmentor.com พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดในทุกขั้นตอนของการเรียนรู้ TOEIC ของคุณ
สารบัญ [hide]

รายการบทความ

บางทีคุณอาจสนใจ

โพสต์ใหม่

คลังแบบฝึกหัด Wh-Questions 4 ระดับ (พร้อมเฉลยละเอียด)

คุณกำลังหาแบบฝึกหัด wh questions ที่ครอบคลุมทุกระดับความยากไหม? บทความนี้รวบรวมโจทย์ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง พร้อมเฉลยละเอียดและไฟล์ PDF...

รวมแบบฝึกหัด Present Perfect Tense พร้อมเฉลยละเอียด (เรียงจากง่ายไปยาก)

Present Perfect Tense เป็นโครงสร้างไวยากรณ์ที่เชื่อมเหตุการณ์ในอดีตเข้ากับปัจจุบัน ซึ่งหลายคนมักสับสนกับ Past Simple...

รวมแบบฝึกหัด Present Continuous Tense กว่า 50 ข้อ! พร้อมเฉลยละเอียด

การเรียน Present Continuous มักทำให้ผู้เรียนสับสนเรื่องการสะกดคำกริยา การเลือกใช้ is, am,...