เคยไหมที่ทำงานหนักจนหมดแรง แต่พอจะบอกเพื่อนต่างชาติคิดออกแค่ “I’m tired” เพียงคำเดียว ทั้งที่ในใจอยากสื่อว่าเหนื่อยมากจนแทบลุกไม่ขึ้น หรือบางทีก็แค่เหนื่อยใจกับสถานการณ์บางอย่าง ความจริงแล้ว ฉันเหนื่อย ภาษาอังกฤษ มีวิธีพูดที่หลากหลายกว่าที่คุณคิด แต่ละคำสะท้อนระดับความเหนื่อยและบริบทที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาคุณค้นพบ 101 วิธีพูด เหนื่อยภาษาอังกฤษ อย่างครบถ้วนที่สุด ตั้งแต่พื้นฐานที่ถูกต้อง คลังคำศัพท์ตามระดับความหนักเบา ไปจนถึงการใช้งานในบริบทต่างๆ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ พร้อมเคล็ดลับการใช้ให้ถูกกาลเทศะเหมือนเจ้าของภาษา เมื่ออ่านจบคุณจะสามารถสื่อสารความเหนื่อยได้อย่างแม่นยำและมั่นใจในทุกสถานการณ์
I. พื้นฐานที่ต้องรู้ก่อน! เคลียร์ 3 ข้อสับสนที่คนไทยมักพลาด
ก่อนจะไปต่อกับคลังคำศัพท์ขั้นสูง เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานให้แม่นยำกันก่อน เพราะความผิดพลาดเล็กน้อยอาจทำให้คุณสื่อความหมายผิดไปได้
1. “ฉันเหนื่อย” พูดอย่างไรให้ถูกต้อง?
วิธีพูดพื้นฐานที่สุดคือ “I’m tired” (ไอม์ ไทเออร์ด) หรือเขียนแบบเต็มว่า “I am tired” ทั้งสองแบบถูกต้องและใช้ได้เหมือนกัน โดย I’m เป็นรูปแบบที่ใช้บ่อยในการสนทนาทั่วไป ส่วน I am จะเป็นทางการกว่าเล็กน้อย ตัวอย่างประโยคเช่น “I’m tired after working all day” (ฉันเหนื่อยหลังจากทำงานทั้งวัน) หรือ “I am tired and need some rest” (ฉันรู้สึกเหนื่อยและต้องการพักผ่อน)
2. Tired กับ Sleepy ต่างกันอย่างไร?
หลายคนมักสับสนระหว่างสองคำนี้ แต่ความจริงแล้วมีความหมายที่แตกต่างกันชัดเจน
| คำศัพท์ | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค |
| Tired (ไทเออร์ด) | รู้สึกขาดพลังงาน เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย | I’m tired but I need to finish this work. (ฉันเหนื่อยแต่ต้องทำงานนี้ให้เสร็จ) |
| Sleepy (สลีปี) | ง่วงนอน ต้องการนอน | I’m sleepy and can’t keep my eyes open. (ฉันง่วงจนลืมตาไม่ค่อยขึ้น) |
สังเกตว่าคุณอาจ tired แต่ไม่ sleepy ได้ เช่นหลังออกกำลังกายหนักๆ คุณอาจรู้สึกเหนื่อยมากแต่ไม่ได้ง่วงนอน ประโยคสำคัญที่ควรจำคือ “I’m tired, but I’m not sleepy” (ฉันเหนื่อยแต่ไม่ได้ง่วง) เพื่อสื่อความหมายให้ชัดเจน
3. Tired กับ Tiring ใช้ต่างกันยังไง?
นี่คือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยมากในหมู่ผู้เรียนชาวไทย ความแตกต่างอยู่ที่:
- Tired (-ed): ใช้บอกความรู้สึกของคน หมายถึง “ฉันรู้สึก…” เช่น I am tired (ฉันรู้สึกเหนื่อย), She looks tired (เธอดูเหนื่อย)
- Tiring (-ing): ใช้อธิบายลักษณะของสิ่งของหรือสถานการณ์ หมายถึง “มันน่า…” เช่น This job is tiring (งานนี้น่าเหนื่อย), The journey was tiring (การเดินทางครั้งนั้นน่าเหนื่อย)
ประโยคที่ชัดเจนที่สุดคือ “I am tired because my job is tiring” (ฉันรู้สึกเหนื่อย ภาษาอังกฤษเพราะงานของฉันเป็นงานที่น่าเหนื่อย) จำง่ายๆ ว่า -ed พูดถึงความรู้สึกของคน ส่วน -ing พูดถึงสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกนั้น
II. คลังศัพท์ฉบับสมบูรณ์: บอกระดับความเหนื่อยอย่างมืออาชีพ
ตอนนี้เรามาเรียนรู้วิธีสื่อสารระดับความเหนื่อยที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณเลือกใช้คำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ
1. ระดับเบา: เหนื่อยนิดหน่อย (Slightly Tired)
| คำศัพท์ (คำอ่าน) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | หมายเหตุ |
| A bit tired (อะ บิท ไทเออร์ด) | เหนื่อยนิดหน่อย | I’m a bit tired after the morning jog. (ฉันเหนื่อยนิดนึงหลังจากวิ่งเช้า) | ใช้ได้ทุกสถานการณ์ |
| Somewhat tired (ซัมว็อท ไทเออร์ด) | ค่อนข้างเหนื่อย | I feel somewhat tired but I can continue working. (ฉันรู้สึกค่อนข้างเหนื่อยแต่ยังทำงานต่อได้) | เป็นทางการกว่า “a bit tired” |
| A little worn out (อะ ลิทเทิล วอร์น เอาท์) | เริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย | After three meetings, I’m a little worn out. (หลังประชุมสามรอบ ฉันเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้ว) | เหมือนของที่ถูกใช้จนเริ่มเก่า |
| Slightly fatigued (สไลท์ลี ฟะทีกด์) | อ่อนเพลียเล็กน้อย | My muscles are slightly fatigued from yesterday’s workout. (กล้ามเนื้อของฉันอ่อนเพลียเล็กน้อยจากการออกกำลังกายเมื่อวาน) | มักใช้ในทางการแพทย์ |
| Not at my best (น็อท แอท มาย เบสท์) | ไม่ได้ฟิตเต็มที่ | I didn’t sleep well last night, so I’m not at my best today. (เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ วันนี้เลยไม่ค่อยฟิต) | วิธีพูดที่สุภาพ |
2. ระดับกลาง: เหนื่อยพอสมควร (Moderately Tired)

| คำศัพท์ (คำอ่าน) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | หมายเหตุ |
| Tired (ไทเออร์ด) | เหนื่อย | I’m tired from all the shopping today. (ฉันเหนื่อยจากการช้อปปิ้งทั้งวัน) | คำพื้นฐานที่ใช้บ่อยที่สุด |
| Weary (เวียรี) | อ่อนล้า เหน็ดเหนื่อย | After a long week, I feel weary and need a break. (หลังจากสัปดาห์ที่ยาวนาน ฉันรู้สึกอ่อนล้าและต้องการพักผ่อน) | เหนื่อยทั้งกายและใจ |
| Drained (เดรนด์) | หมดแรง | That heated discussion left me completely drained. (การถกเถียงครั้งนั้นทำให้ฉันหมดแรงไปเลย) | เหมือนถูกดูดพลังงานออกไป |
| Worn out (วอร์น เอาท์) | อ่อนเพลียมาก | I’m worn out after moving furniture all morning. (ฉันอ่อนเพลียหลังจากขนเฟอร์นิเจอร์ทั้งเช้า) | เหมือนของที่ถูกใช้จนเก่า |
| Run-down (รัน ดาวน์) | อ่อนแอ เหนื่อยล้า | I’ve been feeling run-down lately; maybe I need vitamins. (ช่วงนี้รู้สึกอ่อนเพลีย บางทีอาจต้องทานวิตามินเสริม) | เหนื่อยจนสุขภาพไม่ดี |
| Beat (บีท) | เหนื่อยมาก | I’m beat after that intense gym session. (ฉันเหนื่อยมากหลังออกกำลังกายหนักๆ) | ไม่เป็นทางการ |
| Bushed (บุชด์) | เหนื่อยล้า | I’m absolutely bushed from the hike. (ฉันเหนื่อยมากจากการปีนเขา) | สแลงในภาษาพูด |
3. ระดับหนัก: เหนื่อยมากๆ (Very Tired / Extremely Tired)
| คำศัพท์ (คำอ่าน) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | หมายเหตุ |
| Very tired (เวรี ไทเออร์ด) | เหนื่อยมาก | I am very tired and need to go home now. (ฉันเหนื่อยมากและต้องกลับบ้านแล้ว) | ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย |
| Exhausted (อิกซอสเต็ด) | หมดแรงมาก | After the marathon, I was completely exhausted. (หลังวิ่งมาราธอน ฉันหมดแรงมากจนไม่เหลือพลัง) | เหนื่อยจนไม่เหลือพลังงาน |
| Fatigued (ฟะทีกด์) | อ่อนเพลียอย่างมาก | Patients often feel fatigued after chemotherapy. (ผู้ป่วยมักรู้สึกอ่อนเพลียมากหลังเคมีบำบัด) | ใช้ในบริบททางการแพทย์ |
| Wiped out (ไว้พท์ เอาท์) | หมดพลังเลย | I’m completely wiped out after studying for exams all night. (ฉันหมดพลังเลยหลังอ่านหนังสือสอบทั้งคืน) | เหมือนถูกเช็ดออกไปหมด |
| Shattered (แชทเทอร์ด) | เหนื่อยจนแทบแตก | I’m absolutely shattered after working two shifts. (ฉันเหนื่อยมากหลังทำงานสองกะติด) | สแลงสำเนียง British |
| Knackered (แนคเคอร์ด) | เหนื่อยหมดแรง | I’m totally knackered from the long flight. (ฉันเหนื่อยมากจากเที่ยวบินที่ยาวนาน) | สแลงสำเนียง British ใช้บ่อย |
| Dead tired (เด็ด ไทเออร์ด) | เหนื่อยจนแทบตาย | I’m dead tired and could fall asleep standing up. (ฉันเหนื่อยมากจนนอนยืนได้เลย) | ไม่เป็นทางการ |
| Dog-tired (ด็อก ไทเออร์ด) | เหนื่อยมากเหมือนสุนัข | After playing with the kids all day, I’m dog-tired. (หลังเล่นกับเด็กๆ ทั้งวัน ฉันเหนื่อยสุดๆ) | สำนวนเก่าแก่ |
4. ระดับสุดยอด: เหนื่อยจนไม่อยากลุกไปไหน (Completely Exhausted)
| คำศัพท์ (คำอ่าน) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | หมายเหตุ |
| Completely exhausted (คอมพลีทลี อิกซอสเต็ด) | หมดแรงโดยสิ้นเชิง | I’m completely exhausted after the week-long conference. (ฉันหมดแรงโดยสิ้นเชิงหลังประชุมสัปดาห์เต็ม) | เน้นความสมบูรณ์ |
| Utterly drained (อัทเทอร์ลี เดรนด์) | หมดพลังอย่างสิ้นเชิง | The project deadline left me utterly drained. (กำหนดส่งโปรเจกต์ทำให้ฉันหมดพลังโดยสิ้นเชิง) | เน้นความสมบูรณ์ |
| Bone-tired (โบน ไทเออร์ด) | เหนื่อยจนถึงกระดูก | After the renovation, I was bone-tired for days. (หลังปรับปรุงบ้าน ฉันเหนื่อยหลายวันเลย) | เหนื่อยลึกถึงกระดูก |
| Running on empty (รันนิ่ง ออน เอ็มพตี) | ทำงานโดยไม่มีพลังงานเหลือ | I’ve been running on empty since this morning. (ตั้งแต่เช้าฉันทำงานโดยไม่มีแรงเหลือเลย) | เหมือนรถที่น้ำมันหมด |
| At the end of my rope (แอท ดิ เอนด์ ออฟ มาย โรพ) | หมดแรงและความอดทน | After dealing with complaints all day, I’m at the end of my rope. (หลังรับมือกับคำร้องเรียนทั้งวัน ฉันหมดแรงและความอดทนแล้ว) | เหมือนถึงจุดสิ้นสุดของเชือก |
5. คำศัพท์พิเศษ: สำนวนและสแลง (Special Vocabulary: Idioms & Slang)
| คำศัพท์ (คำอ่าน) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | หมายเหตุ |
| Pooped (พูพท์) | เหนื่อยมาก | I’m pooped after cleaning the house. (ฉันเหนื่อยมากหลังทำความสะอาดบ้าน) | สแลงที่เป็นกันเอง |
| Zonked (ซังคท์) | เหนื่อยจนเพลีย | I’m totally zonked after the party. (ฉันเหนื่อยสุดๆ หลังงานปาร์ตี้) | สแลงสนุกสนาน |
| Frazzled (แฟรซเซิลด์) | เหนื่อยและเครียด | Dealing with difficult customers left me frazzled. (รับมือกับลูกค้ายากๆ ทำให้ฉันเหนื่อยและเครียด) | เน้นความเหนื่อยทางจิตใจ |
| Burned out (เบิร์นด์ เอาท์) | หมดไฟ | After five years of overtime, I’m completely burned out. (หลังทำงานล่วงเวลาห้าปี ฉันหมดไฟแล้ว) | เหนื่อยจนไม่มีแรงจูงใจ |
| Spent (สเพนท์) | หมดแรงไปแล้ว | I’m completely spent after that workout. (ฉันหมดแรงหมดเลยหลังออกกำลังกาย) | เหมือนเงินที่ใช้จนหมด |
| Tuckered out (ทักเคอร์ด เอาท์) | เหนื่อยมาก | The kids are all tuckered out from playing. (เด็กๆ เหนื่อยหมดแล้วจากการเล่น) | สแลงแบบเก่าๆ ฟังดูน่ารัก |
| Wrung out (รัง เอาท์) | เหนื่อยจนไม่เหลือแรง | That emotional conversation left me wrung out. (การพูดคุยครั้งนั้นทำให้ฉันเหนื่อยทั้งกายและใจ) | เหมือนผ้าที่ถูกบีบจนไม่เหลือน้ำ |
| Done in (ดัน อิน) | เหนื่อยจนทำอะไรไม่ไหว | I’m done in after organizing the event. (ฉันเหนื่อยมากหลังจัดงาน) | ไม่เป็นทางการ |
| All in (ออล อิน) | เหนื่อยหมด | After the presentation, I’m all in. (หลังนำเสนอ ฉันเหนื่อยหมดแล้ว) | พลังงานหมดสิ้น |
| Running on fumes (รันนิ่ง ออน ฟิวมส์) | ทำงานโดยพึ่งแค่ไอเสีย | I’ve been running on fumes since I skipped lunch. (ตั้งแต่ข้ามมื้อเที่ยงมา ฉันทำงานโดยไม่มีแรงเหลือเลย) | เหมือนรถที่น้ำมันใกล้หมด |
| Out of gas (เอาท์ ออฟ แกส) | หมดแรงเหมือนหมดน้ำมัน | I’m completely out of gas after studying all night. (ฉันหมดแรงเลยหลังอ่านหนังสือทั้งคืน) | เหมือนรถที่หมดน้ำมัน |
| Beat down (บีท ดาวน์) | เหนื่อยและท้อแท้ | The constant criticism left me feeling beat down. (การถูกวิจารณ์ตลอดเวลาทำให้ฉันรู้สึกเหนื่อยและท้อแท้) | เหนื่อยทั้งกายและใจ |
| Cream-crackered (ครีม แครคเคอร์ด) | เหนื่อยมาก | I’m cream-crackered after the night shift. (ฉันเหนื่อยมากหลังกะกลางคืน) | British rhyming slang |
| Jiggered (จิกเกอร์ด) | เหนื่อยล้า | I’m completely jiggered from the journey. (ฉันเหนื่อยมากจากการเดินทาง) | สแลงอังกฤษ |
| Whacked (แว็คท์) | เหนื่อยมาก | I’m whacked after playing sports all afternoon. (ฉันเหนื่อยมากหลังเล่นกีฬาทั้งบ่าย) | สแลงที่ใช้ง่าย |
6. การบรรยายความเหนื่อยแบบเฉพาะเจาะจง (Specific Types of Tiredness)
| คำศัพท์ (คำอ่าน) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | หมายเหตุ |
| Mentally exhausted (เมนทัลลี อิกซอสเต็ด) | เหนื่อยทางสมอง | After solving complex problems all day, I’m mentally exhausted. (หลังแก้ปัญหายากๆ ทั้งวัน ฉันเหนื่อยทางสมองมาก) | เน้นความเหนื่อยทางจิต |
| Physically drained (ฟิสิคัลลี เดรนด์) | เหนื่อยทางกายภาพ | The intense workout left me physically drained. (การออกกำลังกายหนักทำให้ฉันเหนื่อยทางร่างกาย) | เน้นความเหนื่อยทางกาย |
| Emotionally exhausted (อิโมชันนัลลี อิกซอสเต็ด) | เหนื่อยทางอารมณ์ | The stressful situation left me emotionally exhausted. (สถานการณ์ที่กดดันทำให้ฉันเหนื่อยทางอารมณ์) | เน้นความเหนื่อยทางจิตใจ |
| Sleep-deprived (สลีพ ดิไพรฟ์ด) | ขาดการนอนหลับ | I’m sleep-deprived after staying up with the baby. (ฉันขาดการนอนหลับหลังคอยดูแลลูกทั้งคืน) | ขาดการนอน |
| Jet-lagged (เจ็ท แล็กด์) | เหนื่อยจากเปลี่ยนเขตเวลา | I’m still jet-lagged from the flight to New York. (ฉันยังเหนื่อยจากการเปลี่ยนเขตเวลาหลังบินไปนิวยอร์ก) | เหนื่อยจากเปลี่ยนเขตเวลา |
| Combat fatigue (คอมแบท ฟะทีก) | อ่อนเพลียจากการต่อสู้ | Soldiers often experience combat fatigue after missions. (ทหารมักประสบกับความอ่อนเพลียหลังปฏิบัติการ) | ใช้ในบริบททหาร |
| Eye strain (อาย สเตรน) | เหนื่อยตา | Staring at the computer screen all day causes eye strain. (จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันทำให้ตาเหนื่อย) | เฉพาะดวงตา |
| Muscle fatigue (มัสเซิล ฟะทีก) | กล้ามเนื้ออ่อนเพลีย | Lifting weights caused muscle fatigue in my arms. (ยกน้ำหนักทำให้กล้ามเนื้อแขนอ่อนเพลีย) | เฉพาะกล้ามเนื้อ |
| Brain fog (เบรน ฟอก) | สมองล้า คิดไม่ออก | I have brain fog after working on spreadsheets for hours. (ฉันสมองล้าหลังทำงานกับสเปรดชีตหลายชั่วโมง) | สมองทำงานไม่เต็มที่ |
| Chronic fatigue (ครอนิค ฟะทีก) | ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง | He was diagnosed with chronic fatigue syndrome. (เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคความเหนื่อยล้าเรื้อรัง) | เหนื่อยตลอดเวลา เป็นโรค |
7. การบรรยายสภาพร่างกายเมื่อเหนื่อย (Physical Descriptions of Tiredness)

| วลี (คำอ่าน) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | หมายเหตุ |
| Can barely keep my eyes open (แคน แบร์ลี คีพ มาย อายส์ โอเพิน) | แทบลืมตาไม่ขึ้น | I’m so tired I can barely keep my eyes open. (ฉันเหนื่อยจนแทบลืมตาไม่ขึ้น) | บรรยายสภาพ |
| Too tired to move (ทู ไทเออร์ด ทู มูฟ) | เหนื่อยจนไม่อยากขยับ | I’m too tired to move from this couch. (ฉันเหนื่อยจนไม่อยากลุกจากโซฟานี้) | บรรยายสภาพ |
| My legs feel like jelly (มาย เล็กส์ ฟีล ไลค์ เจลลี) | ขาอ่อนเหมือนเยลลี่ | After climbing stairs all day, my legs feel like jelly. (หลังขึ้นบันไดทั้งวัน ขาฉันอ่อนเหมือนเยลลี่) | บรรยายสภาพขา |
| I could sleep for a week (ไอ คูด สลีพ ฟอร์ อะ วีค) | นอนได้ทั้งสัปดาห์ | I’m so exhausted I could sleep for a week. (ฉันเหนื่อยมากจนนอนได้ทั้งสัปดาห์) | การพูดเกินจริง |
| I’m dragging (ไอม์ แดรกกิ้ง) | เดินลากๆ | I’ve been dragging all morning without coffee. (ตั้งแต่เช้าฉันเดินลากๆ เพราะยังไม่ได้ดื่มกาแฟ) | บรรยายการเดิน |
| My battery is at 1% (มาย แบทเทอรี อิส แอท วัน เพอร์เซนท์) | พลังงานเหลือ 1% | After this busy day, my battery is at 1%. (หลังวันที่วุ่นวายนี้ พลังงานของฉันเหลือแค่ 1%) | เปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ |
| I’m running on autopilot (ไอม์ รันนิ่ง ออน ออโตไพลอท) | ทำงานโดยไม่มีสติ | I’m so tired I’m just running on autopilot. (ฉันเหนื่อยจนทำงานไปโดยไม่มีสติ) | เหมือนเครื่องบินบินอัตโนมัติ |
| Dead on my feet (เด็ด ออน มาย ฟีท) | เหนื่อยมากแต่ยังต้องยืน | After the 12-hour shift, I was dead on my feet. (หลังทำงาน 12 ชั่วโมง ฉันเหนื่อยมากแต่ยังต้องยืน) | บรรยายสภาพ |
| Hitting the wall (ฮิตติ้ง เดอะ วอลล์) | ถึงจุดที่ไม่ไหวแล้ว | I’m hitting the wall after five hours of studying. (ฉันถึงจุดที่ไม่ไหวแล้วหลังอ่านหนังสือห้าชั่วโมง) | เหมือนวิ่งไปจนชนกำแพง |
| Ready to drop (เรดดี ทู ดร็อพ) | พร้อมจะล้มลง | I’m ready to drop after this marathon meeting. (ฉันเหนื่อยจนพร้อมจะล้มหลังประชุมยาวนาน) | บรรยายสภาพ |
8. สำนวนและวลีพิเศษ (Special Idioms & Phrases)
| สำนวน (คำอ่าน) | ความหมาย | ตัวอย่างประโยค | หมายเหตุ |
| Burning the candle at both ends (เบิร์นนิ่ง เดอะ แคนเดิล แอท โบธ เอนด์ส) | เผาเทียนทั้งสองข้าง | You’ve been burning the candle at both ends; no wonder you’re exhausted. (คุณทำงานหนักไม่มีพัก ไม่แปลกที่เหนื่อย) | ทำงานหนักไม่มีเวลาพัก |
| Stretched too thin (สเตรชด์ ทู ธิน) | ยืดตัวบางเกินไป | I’m stretched too thin with all these projects. (ฉันทำหลายโปรเจกต์จนเหนื่อยมาก) | ทำหลายอย่างจนเหนื่อย |
| Spread myself too thin (สเปรด มายเซลฟ์ ทู ธิน) | กระจายตัวบางเกินไป | I’ve spread myself too thin this month. (เดือนนี้ฉันรับงานมากเกินไปจนเหนื่อย) | รับงานมากเกินไป |
| Pushed to the limit (พุชด์ ทู เดอะ ลิมิท) | ถูกผลักดันจนถึงขีดสุด | This week has pushed me to the limit. (สัปดาห์นี้ผลักดันฉันจนถึงขีดสุด) | ถึงขีดความสามารถ |
| At breaking point (แอท เบรคกิ้ง พอยท์) | ถึงจุดแตกหัก | I’m at breaking point with this workload. (ฉันเหนื่อยจนไม่ไหวแล้วกับงานพวกนี้) | เหนื่อยจนไม่ไหว |
| Running myself ragged (รันนิ่ง มายเซลฟ์ แรกเก็ด) | ทำให้ตัวเองเหนื่อยล้า | I’ve been running myself ragged trying to meet deadlines. (ฉันทำให้ตัวเองเหนื่อยล้าเพื่อให้ทันกำหนดส่ง) | ทำงานหนักจนเหนื่อย |
| Worn to a frazzle (วอร์น ทู อะ แฟรซเซิล) | เหนื่อยและเครียดจนเหลือแค่เศษ | Dealing with complaints has worn me to a frazzle. (การรับมือกับคำร้องเรียนทำให้ฉันเหนื่อยและเครียดมาก) | เหนื่อยและเครียดมาก |
| No gas left in the tank (โน แกส เล็ฟท์ อิน เดอะ แท็งค์) | ไม่มีน้ำมันเหลือในถัง | I have no gas left in the tank after this week. (หลังสัปดาห์นี้ ฉันหมดแรงหมดเลย) | หมดแรงแล้ว |
| On my last legs (ออน มาย ลาสท์ เล็กส์) | ใกล้จะหมดแรง | After hours of standing, I’m on my last legs. (หลังยืนหลายชั่วโมง ฉันใกล้จะหมดแรงแล้ว) | ขาสุดท้ายแล้ว |
| Feeling the strain (ฟีลิ่ง เดอะ สเตรน) | รู้สึกถึงความเครียดและเหนื่อย | I’m really feeling the strain of working overtime. (ฉันรู้สึกถึงความเหนื่อยจากการทำงานล่วงเวลาจริงๆ) | รู้สึกถึงความเครียด |
III. ถาม-ตอบเชิงลึกกับผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ (FAQ)
1. ‘Exhausted’, ‘Fatigued’, และ ‘Drained’ ต่างกันหรือไม่?
ทั้งสามคำหมายถึงความเหนื่อยระดับสูง แต่มีความแตกต่างเชิงความรู้สึก (Nuance) ที่สำคัญ
- Exhausted (อิกซอสเต็ด) เน้นที่ความเหนื่อยทางกายภาพจนไม่เหลือพลังงาน เหมือนแบตเตอรี่หมดเลย มักใช้หลังการออกกำลังกายหนักหรือทำงานหนักเป็นเวลานาน ตัวอย่าง: After the marathon, I was completely exhausted (หลังวิ่งมาราธอน ฉันหมดแรงโดยสิ้นเชิง)
- Fatigued (ฟะทีกด์) เป็นคำที่เป็นทางการและมักใช้ในทางการแพทย์ เน้นที่ภาวะความเหนื่อยล้าที่เกิดจากการใช้งานอวัยวะหรือร่างกายอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นอาการของโรคบางชนิด ตัวอย่าง: The doctor said I’m fatigued due to lack of iron (หมอบอกว่าฉันอ่อนเพลียเพราะขาดธาตุเหล็ก)
- Drained (เดรนด์) ให้ภาพว่าพลังงานถูกดูดออกไปจนหมด เน้นทั้งความเหนื่อยทางกายและทางจิตใจ มักใช้หลังจากสถานการณ์ที่กดดันทางอารมณ์หรือใช้พลังงานจิตใจมาก ตัวอย่าง: That emotional conversation left me feeling drained (การพูดคุยครั้งนั้นทำให้ฉันรู้สึกหมดแรงทั้งกายและใจ)
2. ‘Knackered’ และ ‘Shattered’ เป็นสำเนียงใด?
ทั้งสองคำเป็นสแลงสำเนียงอังกฤษ (British English) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสหราชอาณาจักร
- Knackered มาจากคำเก่าที่หมายถึง “ทำลายจนใช้การไม่ได้” เวลาใช้กับคนหมายถึงเหนื่อยมากจนแทบทำอะไรไม่ได้ คนอังกฤษใช้คำนี้บ่อยมากในชีวิตประจำวัน ตัวอย่าง: I’m absolutely knackered after the night shift (ฉันเหนื่อยมากหลังกะกลางคืน)
- Shattered แปลตรงตัวว่า “แตกเป็นเสี่ยงๆ” เมื่อใช้กับความเหนื่อยหมายถึงเหนื่อยจนแทบแตก เป็นสแลงที่เป็นกันเองมาก ตัวอย่าง: I’m completely shattered; I need to go home (ฉันเหนื่อยสุดๆ แล้ว ต้องกลับบ้านแล้ว)
ทั้งสองคำไม่เป็นทางการเลย ดังนั้นไม่ควรใช้ในการประชุม การนำเสนอ หรือเมื่อพูดกับผู้บังคับบัญชา แต่เหมาะมากสำหรับการสนทนากับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนสนิท
3. การใช้สแลงในที่ทำงานไม่สุภาพหรือไม่?
ใช่ การใช้สแลงอย่าง knackered, shattered, zonked, pooped ในที่ทำงานอาจดูไม่เป็นมืออาชีพและไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในสถานการณ์ต่อไปนี้: เมื่อพูดกับผู้บังคับบัญชาหรือผู้บริหาร ในการประชุมที่เป็นทางการ เมื่อพูดกับลูกค้าหรือคู่ค้า ในอีเมลหรือเอกสารทางการ หรือในการนำเสนอโปรเจกต์
ทางเลือกที่เหมาะสมกว่า: แทนที่จะพูดว่า “I’m knackered” ให้ใช้ “I’m quite fatigued” (ฉันรู้สึกค่อนข้างอ่อนเพลีย) แทนที่จะพูดว่า “I’m totally shattered” ให้ใช้ “I’m feeling rather exhausted” (ฉันรู้สึกค่อนข้างหมดแรง) แทนที่จะพูดว่า “I’m dead tired” ให้ใช้ “I may not be at my best” (ฉันอาจจะยังไม่ฟิตเต็มที่)
อย่างไรก็ตาม ในบางวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นกันเอง การใช้สแลงกับเพื่อนร่วมงานสนิทอาจยอมรับได้ แต่ควรสังเกตบรรยากาศและวัฒนธรรมของที่ทำงานก่อนตัดสินใจใช้
4. สำนวน ‘Burn the candle at both ends’ คืออะไร?
สำนวน “Burn the candle at both ends” (เผาเทียนทั้งสองข้าง) เป็นสำนวนที่มีประวัติยาวนาน หมายถึงการทำงานหนักหรือทำกิจกรรมมากมายจนไม่มีเวลาพักผ่อน ทำให้ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้า
ที่มาของสำนวนนี้มาจากยุคที่ใช้เทียนเป็นแสงสว่าง ปกติแล้วเทียนจะมีไส้เพียงข้างเดียวและเผาไหม้ทีละข้าง แต่ถ้าจุดไฟทั้งสองข้างพร้อมกัน เทียนจะไหม้เร็วขึ้นเป็นสองเท่าและหมดเร็วมาก เปรียบเทียบกับคนที่ใช้พลังงานมากเกินไปโดยไม่พักผ่อน
ตัวอย่างการใช้: You’ve been burning the candle at both ends with work and night classes; you need to rest (คุณทำงานและเรียนค่ำจนไม่มีเวลาพัก คุณต้องพักผ่อนบ้าง), If you keep burning the candle at both ends, you’ll burn out soon (ถ้าคุณยังทำงานหนักไม่หยุดพักแบบนี้ เดี๋ยวก็หมดไฟ), She’s been burning the candle at both ends preparing for the exam (เธอทำงานหนักเตรียมสอบจนไม่มีเวลาพักเลย)
สำนวนนี้เตือนให้เราสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน เพราะการใช้พลังงานมากเกินไปอย่างต่อเนื่องจะนำไปสู่ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง (chronic fatigue) หรือภาวะหมดไฟ (burnout) ในที่สุด
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณก้าวข้ามการใช้แค่ “I’m tired” และสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษา อย่าลืมฝึกใช้คำศัพท์เหล่านี้ในชีวิตประจำวัน และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อมีพลังงานในการเรียนรู้และพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณต่อไป!
