คุณเคยกังวลว่าการถามคำถามภาษาอังกฤษของคุณฟังดูไม่สุภาพหรือแข็งกร้าวเกินไปหรือไม่? การเรียนรู้ indirect questions คืออะไร จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนการสื่อสารของคุณให้เป็นมืออาชีพและสุภาพมากขึ้น TOEIC Mentor ได้จัดทำคู่มือครบถ้วนนี้เพื่อสอนเทคนิคการสร้าง indirect questions อย่างถูกต้อง พร้อมตัวอย่างที่ชัดเจนและข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเจรจาธุรกิจ หรือการสื่อสารกับชาวต่างชาติ
I. Indirect Question คืออะไร?
จินตนาการว่าคุณกำลังสอบถามเส้นทางจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือกำลังขอข้อมูลจากเจ้านายชาวต่างประเทศในที่ทำงาน แทนที่จะถามตรงๆ ว่า “Where is the nearest station?” คุณอาจจะพูดว่า “Could you tell me where the nearest station is?” นี่คือตัวอย่างของ indirect questions
Indirect questions คือการถามคำถามในรูปแบบที่สุภาพและเป็นทางการมากกว่าการถามตรงๆ โดยใช้วลีนำหน้าเพื่อทำให้ประโยคฟังดูอ่อนโยนและมีมารยาทมากขึ้น
ทำไมถึงสำคัญ?
การเรียนรู้ indirect questions จะเปลี่ยนแปลงวิธีการสื่อสารของคุณในสามด้านสำคัญ
- ความสุภาพ (Politeness) – ทำให้การสนทนาฟังดูสุภาพและไม่กดดันผู้ฟัง
- ความเป็นทางการ (Formality) – เหมาะสำหรับสถานการณ์ทางการ เช่น การทำงาน การสัมภาษณ์ หรือการเจรจาธุรกิจ
- การไม่รุกล้ำ (Less Intrusive) – ให้ผู้ฟังรู้สึกว่ามีตัวเลือกในการตอบหรือไม่ตอบ
II. เปรียบเทียบ Direct vs. Indirect Questions
วิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจ direct and indirect questions คือการเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนผ่านการเปรียบเทียบโครงสร้างและการใช้งานในสถานการณ์จริง
ลักษณะเด่น | Direct Question (คำถามตรง) | Indirect Question (คำถามอ้อม) |
โครงสร้างประโยค | กริยาช่วย + ประธาน + กริยาหลัก | วลีนำ + ประธาน + กริยา (โครงสร้างประโยคบอกเล่า) |
ตัวอย่าง Wh- | Where do you live? | Could you tell me where you live? |
ตัวอย่าง Yes/No | Are you free tomorrow? | I wonder if you’re free tomorrow. |
ระดับความสุภาพ | ธรรมดา เป็นกันเอง | สุภาพ เป็นทางการ |
เครื่องหมายวรรคตอน | ใช้เครื่องหมายคำถาม (?) | ใช้จุด (.) หรือคำถาม (?) ขึ้นอยู่กับโครงสร้าง |
การใช้งาน | กับเพื่อน ครอบครัว สถานการณ์ไม่เป็นทางการ | ที่ทำงาน กับคนแปลกหน้า สถานการณ์เป็นทางการ |
III. กฎทองในการสร้าง Indirect Questions ที่ถูกต้อง 100%
1. กลุ่มที่ 1: Wh- Questions
วลีนำ
วลีนำหน้าที่ใช้บ่อยในการสร้าง indirect questions มีหลายรูปแบบที่ช่วยทำให้ประโยคฟังดูสุภาพและเป็นทางการมากขึ้น
วลีที่เป็นทางการและสุภาพ: “Could you tell me…”, “Would you mind telling me…”, “I’d like to know…” วลีที่เป็นกันเองแต่ยังคงสุภาพ: “Do you know…”, “Can you tell me…”, “I wonder…” วลีที่แสดงความไม่แน่ใจ: “I’m not sure…”, “I can’t remember…”
โครงสร้างหลัก
สูตรสำเร็จสำหรับ Wh- indirect questions คือ: วลีนำ + Wh-word + ประธาน + กริยา ซึ่งเป็นโครงสร้างเดียวกับประโยคบอกเล่าทั่วไป
ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลง: “What time does the meeting start?” กลายเป็น “Could you tell me what time the meeting starts?” และ “Where did you buy this book?” กลายเป็น “I’d like to know where you bought this book.”
กฎเหล็ก
ห้ามใช้ do, does, did ใน indirect questions เด็ดขาด เพราะโครงสร้างจะกลายเป็นแบบประโยคบอกเล่าแล้ว
ประโยคที่ผิด: “Can you tell me where do you live?” ประโยคที่ถูก: “Can you tell me where you live?” ประโยคที่ผิด: “I wonder what did she say.” ประโยคที่ถูก: “I wonder what she said.”
2. กลุ่มที่ 2: Yes/No Questions
โครงสร้างสำหรับ Yes/No indirect questions ใช้สูตร: วลีนำ + if/whether + ประธาน + กริยา โดยไม่ต้องใช้กริยาช่วย do, does, did
ตัวอย่าง: “Is the restaurant open?” เปลี่ยนเป็น “Do you know if the restaurant is open?” และ “Has she finished her work?” เปลี่ยนเป็น “I wonder whether she has finished her work.”
3. การใช้เครื่องหมายวรรคตอน
กฎง่ายๆ สำหรับการใช้เครื่องหมายวรรคตอนใน indirect questions มีเพียงสองข้อหลัก
ใช้เครื่องหมายคำถาม (?) เมื่อประโยคเริ่มต้นด้วยคำถาม เช่น “Do you know where the library is?” ใช้จุด (.) เมื่อประโยคเริ่มต้นด้วยประโยคบอกเล่า เช่น “I wonder if she’s coming to the party.”
IV. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย
- การใช้กริยาช่วยผิด: ประโยคผิด “Could you tell me where does she work?” ประโยคถูก “Could you tell me where she works?” เหตุผล: ใน indirect questions ไม่ใช้ do/does/did
- การใช้เครื่องหมายวรรคตอนผิด: ประโยคผิด “I wonder where is the station?” ประโยคถูก “I wonder where the station is.” เหตุผล: ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “I wonder” ใช้จุดปิดท้าย
- การสับสนโครงสร้าง: ประโยคผิด “Can you tell me what time is it?” ประโยคถูก “Can you tell me what time it is?” เหตุผล: ต้องใช้โครงสร้างประโยคบอกเล่า
จากจุดนี้ เรามาดูคำถามที่พบบ่อยและเกร็ดความรู้ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจ indirect questions ได้ลึกซึ้งและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
V. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. Embedded Question กับ Indirect Question ต่างกันอย่างไร?
Embedded Question เป็นศัพท์ทางไวยากรณ์ที่กว้างกว่า indirect questions และมักใช้แทนกันได้ในการสนทนาทั่วไป โดย Embedded Question หมายถึงคำถามที่ฝังอยู่ภายในประโยคใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการถามข้อมูลหรือการขอร้อง ในขณะที่ indirect questions เน้นไปที่การถามอย่างสุภาพเป็นหลัก
2. ควรใช้ ‘if’ หรือ ‘whether’ ในการสร้าง indirect questions?
ทั้ง ‘if’ และ ‘whether’ ใช้ได้ในการสร้าง direct indirect questions แต่ ‘whether’ เป็นทางการมากกว่าและเหมาะสำหรับการเขียนหรือสถานการณ์ที่เป็นทางการ ส่วน ‘if’ เป็นกันเองกว่าและใช้ในการพูดทั่วไป ในบางกรณี เช่น เมื่อมีตัวเลือก “or not” จะใช้ ‘whether’ เท่านั้น
3. สถานการณ์ไหนที่ไม่ควรใช้ Indirect Questions?
Indirect questions ไม่เหมาะสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน การสนทนากับเพื่อนสนิท หรือเมื่อต้องการข้อมูลอย่างรวดเร็ว เพราะอาจทำให้การสื่อสารช้าและไม่จำเป็น นอกจากนี้ ในการสนทนาแบบไม่เป็นทางการ การใช้ direct questions จะดูเป็นธรรมชาติและเป็นกันเองมากกว่า
4. จริงหรือไม่ที่ Indirect Questions ทำให้ฟังดูสุภาพกว่าเสมอ?
ส่วนใหญ่จริง แต่ขึ้นอยู่กับบริบทและน้ำเสียงด้วย การใช้ indirect questions ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม เช่น กับเพื่อนสนิทหรือในครอบครัว อาจทำให้ฟังดูเก๊กหรือเย็นชา ในทางกลับกัน หากใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม จะช่วยสร้างความประทับใจและแสดงถึงการศึกษาที่ดี
การเรียนรู้ indirect questions คืออะไร และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่ใช่เพียงแค่การจำกฎไวยากรณ์ แต่เป็นการพัฒนาทักษะการสื่อสารที่จะยกระดับความมั่นใจและความน่าเชื่อถือของคุณ
จากคำถามธรรมดาที่อาจฟังดูกระด้างหรือไม่สุภาพ คุณสามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นการสนทนาที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพและมีมารยาทที่ดี เมื่อคุณเข้าใจและใช้เทคนิคเหล่านี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ การสื่อสารของคุณจะกลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการสร้างความสัมพันธ์และความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต