คุณยังสับสนกับการเติม s/es หรือไม่แน่ใจเมื่อไหร่ต้องใช้ do/does ในประโยค Present Simple? บทความนี้รวบรวม แบบฝึกหัด present simple กว่า 50 ข้อที่ออกแบบเฉพาะเพื่อแก้ปัญหาที่คนไทยพบบ่อยที่สุด เรียงลำดับจากพื้นฐานสู่ขั้นสูง พร้อมเฉลยละเอียดและคำอธิบายทุกข้อ ฝึกฝนจนจบครบทุกชุด รับรองว่าคุณจะใช้ Present Simple ได้อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติ
I. ความรู้พื้นฐาน Present Simple Tense
Present Simple Tense เป็นกาลที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ แต่กลับเป็นกาลที่คนไทยผิดพลาดมากที่สุดเช่นกัน การเข้าใจโครงสร้างและหลักการใช้งานอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณฝึกฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. โครงสร้างหลักของ Present Simple
ประเภทประโยค | โครงสร้าง | ตัวอย่าง | ความหมาย |
บอกเล่า | S + V (s/es) | She works hard | เธอทำงานหนัก |
ปฏิเสธ | S + don’t/doesn’t + V | I don’t smoke | ฉันไม่สูบบุหรี่ |
คำถาม | Do/Does + S + V? | Do you speak Thai? | คุณพูดไทยได้ไหม? |
หลักสำคัญ: เติม s/es เฉพาะกับประธานเอกพจน์บุรุษที่สาม (He, She, It) เท่านั้น
2. การใช้งานหลักของ Present Simple
Present Simple มีการใช้งานหลัก 4 แบบที่คุณต้องจำให้ขึ้นใจ
- กิจวัตรประจำวัน (Daily Routines) “I wake up at 7 AM every day” (ฉันตื่นเวลา 7 โมงเช้าทุกวัน)
- ความจริงทั่วไป (General Facts) “Water boils at 100°C” (น้ำเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส)
- สถานการณ์ปัจจุบัน (Present States) “He lives in Bangkok” (เขาอยู่กรุงเทพฯ)
- ความสามารถ/ทักษะ (Abilities/Skills) “She plays piano beautifully” (เธอเล่นเปียโนได้อย่างงดงาม)
3. สัญญาณบอกเวลาที่ใช้กับ Present Simple
การจำสัญญาณเหล่านี้จะช่วยให้คุณระบุการใช้ Present Simple ได้ทันที
กลุ่มความถี่ (Frequency Words)
- Always (เสมอ): “She always drinks coffee”
- Usually (ปกติ): “We usually have dinner at 7”
- Often (บ่อยๆ): “They often visit museums”
- Sometimes (บางครั้ง): “I sometimes cook at home”
- Rarely (นานๆ ครั้ง): “He rarely watches TV”
- Never (ไม่เคย): “We never eat fast food”
กลุ่มเวลาประจำ (Regular Time)
- Every + เวลา: every day, every week, every month
- On + วัน: on Mondays, on weekends
- In + เดือน/ฤดู: in January, in winter
4. ข้อผิดพลาดยอดฮิตที่คนไทยทำ
มาดูข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดและวิธีแก้ไขกัน
❌ ผิด | ✅ ถูก | สาเหตุ |
He play football | He plays football | ลืมเติม s กับ He/She/It |
Does they like pizza? | Do they like pizza? | ใช้ Does กับ They |
I am go to school | I go to school | ใช้ am + go ผสมกัน |
She don’t like meat | She doesn’t like meat | ใช้ don’t กับ She |
เคล็ดลับจำง่าย: จำว่า He, She, It ต้องเติม s ที่กริยา และใช้ does ในประโยคคำถาม/ปฏิเสธ ส่วน I, You, We, They ไม่เติมอะไรและใช้ do
การฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพ: เริ่มจากการท่องโครงสร้างพื้นฐานให้คล่อง จากนั้นฝึกแยกแยะประธานก่อนเลือกรูปแบบกริยา สุดท้ายฝึกสร้างประโยคจากสถานการณ์จริงในชีวิตประจำวัน
บทความแนะนำอ่านต่อ:
II. แบบฝึกหัด Present Simple Tense ตามระดับความเข้าใจ
ส่วนนี้คือหัวใจหลักของการเรียนรู้ ที่คุณจะได้ลงมือฝึกฝนจริงตามลำดับขั้นที่วางแผนมาอย่างดี เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญที่แท้จริง
1. แบบฝึกหัดโครงสร้างประโยคพื้นฐาน (Basic Structure)
เติมกริยาในวงเล็บให้ถูกต้อง โดยคำนึงถึงประธานของแต่ละประโยค
- I ______ (eat) rice every day. (ฉันกินข้าวทุกวัน)
- They ______ (walk) to school together. (พวกเขาเดินไปโรงเรียนด้วยกัน)
- She ______ (work) at a hospital. (เธอทำงานที่โรงพยาบาล)
- We ______ (watch) movies on weekends. (เราดูหนังในวันหยุดสุดสัปดาห์)
- He ______ (study) English every morning. (เขาเรียนภาษาอังกฤษทุกเช้า)
- You ______ (like) chocolate ice cream. (คุณชอบไอศกรีมช็อกโกแลต)
- It ______ (rain) heavily in Bangkok. (ฝนตกหนักในกรุงเทพฯ)
- My parents ______ (live) in Chiang Mai. (พ่อแม่ของฉันอยู่เชียงใหม่)
- The cat ______ (sleep) on the sofa. (แมวนอนบนโซฟา)
- Students ______ (read) books in the library. (นักเรียนอ่านหนังสือในห้องสมุด)
2. แบบฝึกหัดเฉพาะ He/She/It กับกริยาที่ซับซ้อน
ส่วนนี้เจาะจงแก้ปัญหาที่คนไทยผิดบ่อยที่สุด เมื่อต้องเติม -s หรือ -es กับกริยาต่างๆ
- My sister ______ (watch) TV every evening. (น้องสาวฉันดูทีวีทุกเย็น)
- He ______ (go) to work by car. (เขาไปทำงานด้วยรถยนต์)
- The dog ______ (catch) the ball quickly. (สุนัขจับลูกบอลได้อย่างรวดเร็ว)
- She ______ (wash) her hair twice a week. (เธอสระผมสัปดาห์ละสองครั้ง)
- My brother ______ (fix) computers for a living. (พี่ชายฉันซ่อมคอมพิวเตอร์เป็นอาชีพ)
- The baby ______ (cry) when hungry. (เด็กทารกร้องไห้เมื่อหิว)
- Tom ______ (study) mathematics at university. (ทอมเรียนคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย)
- The bird ______ (fly) south in winter. (นกบินไปทางใต้ในฤดูหนาว)
- She ______ (carry) her bag to school. (เธอถือกระเป๋าไปโรงเรียน)
- The machine ______ (mix) ingredients automatically. (เครื่องจักรผสมส่วนผสมอัตโนมัติ)
3. แบบฝึกหัดเปลี่ยนเป็นประโยคปฏิเสธ
เปลี่ยนประโยคบอกเล่าต่อไปนี้เป็นประโยคปฏิเสธ
- He likes vegetables. → He ______ ______ vegetables. (เขาไม่ชอบผัก)
- They go to the gym. → They ______ ______ to the gym. (พวกเขาไม่ไปยิม)
- She speaks French. → She ______ ______ French. (เธอไม่พูดภาษาฝรั่งเศส)
- I drink coffee. → I ______ ______ coffee. (ฉันไม่ดื่มกาแฟ)
- We play tennis. → We ______ ______ tennis. (เราไม่เล่นเทนนิส)
- The store opens early. → The store ______ ______ early. (ร้านไม่เปิดเร็ว)
- You understand the lesson. → You ______ ______ the lesson. (คุณไม่เข้าใจบทเรียน)
- My dog barks loudly. → My dog ______ ______ loudly. (สุนัขของฉันไม่เห่าดัง)
- Students wear uniforms. → Students ______ ______ uniforms. (นักเรียนไม่ใส่ชุดยูนิฟอร์ม)
- The sun rises in the east. → The sun ______ ______ in the east. (ดวงอาทิตย์ไม่ขึ้นทางทิศตะวันออก)
4. แบบฝึกหัดเปลี่ยนเป็นคำถาม Yes/No
เปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นคำถามที่ตอบได้ด้วย Yes หรือ No
- They live in Japan. → ______ they ______ in Japan? (พวกเขาอยู่ที่ญี่ปุ่นหรือไม่?)
- She works at night. → ______ she ______ at night? (เธอทำงานกลางคืนหรือไม่?)
- You know the answer. → ______ you ______ the answer? (คุณรู้คำตอบหรือไม่?)
- The train arrives on time. → ______ the train ______ on time? (รถไฟมาตรงเวลาหรือไม่?)
- I look tired today. → ______ I ______ tired today? (ฉันดูเหนื่อยวันนี้หรือไม่?)
- We need more practice. → ______ we ______ more practice? (เราต้องการฝึกฝนเพิ่มหรือไม่?)
- He runs every morning. → ______ he ______ every morning? (เขาวิ่งทุกเช้าหรือไม่?)
- The museum closes at 5 PM. → ______ the museum ______ at 5 PM? (พิพิธภัณฑ์ปิด 5 โมงเย็นหรือไม่?)
- Children love cartoons. → ______ children ______ cartoons? (เด็กๆ ชอบการ์ตูนหรือไม่?)
- Your phone works properly. → ______ your phone ______ properly? (โทรศัพท์คุณทำงานปกติหรือไม่?)
5. แบบฝึกหัดหาจุดผิด (Error Correction)
แก้ไขข้อผิดพลาดในประโยคต่อไปนี้ โดยเน้นปัญหาที่คนไทยมักพบ
- She don’t like spicy food. (เธอไม่ชอบอาหารเผ็ด)
- Do he play basketball? (เขาเล่นบาสเก็ตบอลหรือไม่?)
- I am go to school every day. (ฉันไปโรงเรียนทุกวัน)
- They doesn’t understand English. (พวกเขาไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ)
- Is you ready for the test? (คุณพร้อมสำหรับการสอบหรือไม่?)
- My cat don’t drink milk. (แมวของฉันไม่ดื่มนม)
- Does they live here? (พวกเขาอยู่ที่นี่หรือไม่?)
- She have three sisters. (เธอมีน้องสาวสามคน)
- We doesn’t need help. (เราไม่ต้องการความช่วยเหลือ)
- Are Tom like pizza? (ทอมชอบพิซซ่าหรือไม่?)
6. แบบฝึกหัดเติมเรื่องราวสั้น (Paragraph Completion)
เติมกริยาในวงเล็บให้ถูกต้องเพื่อให้เรื่องราวสมบูรณ์
My friend Sarah ______ (live) in a small village near Bangkok. She ______ (wake) up at 6 AM every day and ______ (help) her mother with household chores. Sarah ______ (not/like) city life because it ______ (be) too noisy for her. Her father ______ (work) as a farmer, and he ______ (grow) rice in the fields behind their house. On weekends, Sarah and her family ______ (visit) the local temple where they ______ (pray) and ______ (make) merit together.
(เพื่อนฉันชื่อซาร่าอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้กรุงเทพฯ เธอตื่นเวลา 6 โมงเช้าทุกวันและช่วยแม่ทำงานบ้าน ซาร่าไม่ชอบชีวิตในเมืองเพราะมันดังเกินไปสำหรับเธอ พ่อของเธอทำงานเป็นชาวนาและปลูกข้าวในนาหลังบ้าน ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซาร่าและครอบครัวไปวัดท้องถิ่นที่พวกเขาไหว้พระและทำบุญด้วยกัน)
เฉลยแบบฝึกหัดฉบับละเอียด (พร้อมคำอธิบายเพิ่มเติม)
เฉลยส่วนที่ 1. (โครงสร้างพื้นฐาน)
- eat 2. walk 3. works 4. watch 5. studies 6. like 7. rains 8. live 9. sleeps 10. read
เฉลยส่วนที่ 2 (เฉพาะ He/She/It)
- watches 2. goes 3. catches 4. washes 5. fixes 6. cries 7. studies 8. flies 9. carries 10. mixes
เฉลยส่วนที่ 3 (ประโยคปฏิเสธ)
- doesn’t like 2. don’t go 3. doesn’t speak 4. don’t drink 5. don’t play 6. doesn’t open 7. don’t understand 8. doesn’t bark 9. don’t wear 10. doesn’t rise
เฉลยส่วนที่ 4 (คำถาม Yes/No)
- Do/live 2. Does/work 3. Do/know 4. Does/arrive 5. Do/look 6. Do/need 7. Does/run 8. Does/close 9. Do/love 10. Does/work
เฉลยส่วนที่ 5 (หาจุดผิด)
- She doesn’t like spicy food. (ต้องใช้ doesn’t เพราะประธานคือ She)
- Does he play basketball? (ต้องใช้ Does เพราะประธานคือ he)
- I go to school every day. (ไม่ต้องใช้ am ใน Present Simple)
- They don’t understand English. (ต้องใช้ don’t เพราะประธานคือ They)
- Are you ready for the test? (ใช้ Are เพราะ ready เป็นคำคุณศัพท์)
- My cat doesn’t drink milk. (ต้องใช้ doesn’t เพราะประธานคือ My cat)
- Do they live here? (ต้องใช้ Do เพราะประธานคือ they)
- She has three sisters. (ต้องใช้ has เพราะประธานคือ She)
- We don’t need help. (ต้องใช้ don’t เพราะประธานคือ We)
- Does Tom like pizza? (ต้องใช้ Does เพราะประธานคือ Tom)
เฉลยส่วนที่ 6 (เติมเรื่องราว)
lives, wakes, helps, doesn’t like, is, works, grows, visit, pray, make
การฝึกฝนซ้ำๆ คือกุญแจสำคัญที่สุดในการเชี่ยวชาญ Present Simple ปัญหาที่เคยทำให้คุณสับสนเรื่องการเติม s/es หรือการใช้ do/does ได้รับการแก้ไขผ่านแบบฝึกหัดที่หลากหลายในบทความนี้แล้ว ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงการใช้งานขั้นสูง คุณได้สร้างรากฐานที่มั่นคงและความเข้าใจที่ถูกต้อง นำความรู้เหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและสังเกตการเปลี่ยนแปลงในความมั่นใจของตัวเอง ครั้งต่อไปอยากฝึก Tense ไหนกัน คอมเมนต์บอกเราได้เลย!