หากคุณเคยสอบ TOEIC และสงสัยว่า TOEIC มีอายุ กี่ ปี การอ่านบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจครบทุกแง่มุมเกี่ยวกับอายุการใช้งานของคะแนน TOEIC ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่ต้องมีการจำกัดอายุ ผลกระทบเมื่อคะแนนหมดอายุ และแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมสำหรับแต่ละสถานการณ์
I. ตอบข้อสงสัยคะแนน TOEIC มีอายุกี่ปี
คำตอบที่ชัดเจนที่สุด: ผลสอบ TOEIC มีอายุการใช้งาน 2 ปี นับจากวันที่ทำการสอบ ไม่ใช่วันที่ได้รับผลสอบ กฎนี้เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดโดยองค์กร Educational Testing Service (ETS) ผู้พัฒนาแบบทดสอบ TOEIC
การนับ อายุ คะแนน TOEIC ที่ถูกต้องเริ่มต้นจาก “วันสอบ (Test Date)” ที่ปรากฏในใบรายงานผลของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณสอบวันที่ 15 มกราคม 2568 คะแนน TOEIC อยู่ ได้ กี่ ปี จะหมดอายุในวันที่ 15 มกราคม 2570 ไม่ว่าคุณจะได้รับผลสอบเมื่อใดก็ตาม
เหตุผลเชิงหลักการจาก ETS: ทำไมต้องจำกัดอายุคะแนน? การกำหนดระยะเวลา 2 ปีมีพื้นฐานมาจากการวิจัยเกี่ยวกับความเสื่อมถอยของทักษะทางภาษา องค์กร ETS เชื่อว่าทักษะภาษาอังกฤษที่ไม่ได้รับการใช้งานหรือพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะลดลงตามธรรมชาติ ดังนั้นคะแนนที่เกิน 2 ปีอาจไม่สะท้อนความสามารถทางภาษาในปัจจุบันของผู้สอบได้อย่างแม่นยำ
II. จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคะแนน TOEIC ของคุณหมดอายุลง
1. สถานะของใบคะแนน (Score Report) จะกลายเป็น “ไม่เป็นทางการ”
เมื่อ คะแนน TOEIC อายุ เกิน 2 ปี ใบรายงานผลจะยังคงอยู่กับคุณ แต่จะไม่มีสถานะเป็นเอกสารที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการอีกต่อไป สถาบันการศึกษาและนายจ้างส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับใบคะแนนที่หมดอายุแล้วเป็นหลักฐานการประเมินความสามารถทางภาษา
2. ไม่สามารถขอใบรายงานผลคะแนนใหม่ (Re-issue) จากศูนย์สอบได้
หากคุณต้องการใบรายงานผลเพิ่มเติมหรือใบแทนของเดิม ETS จะไม่สามารถออกเอกสารให้ได้อีกเมื่อ TOEIC อายุ เกินกำหนด 2 ปี ระบบจะปรากฏข้อความแจ้งว่าคะแนนดังกล่าวไม่อยู่ในช่วงเวลาที่สามารถให้บริการได้
3. เสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธในการยื่นสมัคร ทั้งจากบริษัทและสถาบันการศึกษา
บริษัทข้ามชาติและสถาบันการศึกษาระดับโลกมักมีนโยบายเข้มงวดเกี่ยวกับ อายุ TOEIC พวกเขาจะตรวจสอบวันที่สอบในใบรายงานผลอย่างละเอียด หากพบว่าเกิน 2 ปี จะถือเป็นเอกสารที่ไม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาได้
III. คะแนนหมดอายุแล้วต้องทำอย่างไร?
1. ขั้นตอนที่ 1: ประเมินสถานการณ์และกำหนดเดดไลน์ของคุณ
ตรวจสอบวันที่คุณต้องยื่นเอกสารพร้อมกับคะแนน TOEIC ที่มีผลใช้ได้ หากคุณมีเวลาน้อยกว่า 3 เดือน ให้พิจารณาลงทะเบียนสอบ TOEIC Speaking and Writing Test ที่มีรอบสอบบ่อยกว่า หรือสอบ TOEIC Listening and Reading ที่มีผลออกเร็วกว่า การวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณมีตัวเลือกมากขึ้น
2. ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบและลงทะเบียนรอบสอบ TOEIC ที่เร็วที่สุด
เข้าไปที่เว็บไซต์ของ Center for Professional Assessment (CPA ) หรือศูนย์สอบที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย เพื่อดูตารางสอบและลงทะเบียนทันที โดยปกติรอบสอบ TOEIC Listening and Reading จะมีทุกเดือน ส่วน TOEIC Speaking and Writing จะมี 2-3 ครั้งต่อเดือน
3. ขั้นตอนที่ 3: วางแผนเตรียมตัวสอบใหม่ในระยะเวลาที่จำกัด
หากคุณเคยได้คะแนนดีแล้ว การเตรียมตัวครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น ให้มุ่งเน้นการทบทวนรูปแบบข้อสอบและฝึกทำแบบทดสอบจำลองสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง สำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด การใช้แอปพลิเคชันฝึกสอบหรือคอร์สออนไลน์แบบเข้มข้นจะช่วยให้การเตรียมตัวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
IV. กรณีศึกษาพิเศษ: การใช้คะแนนที่หมดอายุในทางปฏิบัติและข้อควรระวัง
1. คะแนนที่เกิน 2 ปีมาเล็กน้อย: ความเสี่ยงและโอกาสที่ต้องพิจารณา
หากคะแนนของคุณหมดอายุไปเพียง 2-3 เดือน บางองค์กรอาจพิจารณายอมรับในกรณีพิเศษ โดยเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่ไม่ได้เน้นการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การใช้คะแนนที่หมดอายุแล้วมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกปฏิเสธหรือขอให้แสดงหลักฐานการประเมินความสามารถเพิ่มเติม
2. นโยบายของ HR ในบริษัทต่างๆ: ทำไมบางที่อาจหย่อนผ่อน แต่ทำไมคุณไม่ควรเสี่ยง
บริษัทไทยขนาดกลางและขนาดย่อมบางแห่งอาจมีความยืดหยุ่นกับข้อกำหนดเกี่ยวกับอายุคะแนน TOEIC มากกว่าบริษัทข้ามชาติ อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาความยืดหยุ่นนี้ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เนื่องจากอาจสร้างความไม่แน่นอนในกระบวนการสมัครงานและอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของคุณในสายตาของนายจ้าง
V. ไขทุกข้อสงสัยที่พบบ่อยและคำถามที่คุณอาจไม่เคยนึกถึง
1. “อายุคะแนน TOEIC” แตกต่างจาก “การรับรองผลคะแนน” อย่างไร?
“อายุคะแนน TOEIC” หมายถึงระยะเวลาที่คะแนนมีสถานะเป็นทางการและได้รับการยอมรับจากสถาบันต่างๆ ส่วน “การรับรองผลคะแนน” หมายถึงความสามารถของ ETS ในการออกเอกสารรับรองความถูกต้องของผลสอบ แม้คะแนนจะยังอยู่กับคุณหลังจากหมดอายุ 2 ปีแล้ว แต่ ETS จะไม่สามารถรับรองความเป็นปัจจุบันของผลสอบนั้นได้อีกต่อไป
2. อายุคะแนนของ TOEIC, TOEFL, และ IELTS แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร?
คะแนน TOEIC และ TOEFL มีอายุการใช้งาน 2 ปี เนื่องจากทั้งคู่พัฒนาโดย ETS ส่วนคะแนน IELTS มีอายุ 2 ปีเช่นกัน แต่ดำเนินการโดย British Council, IDP Education และ Cambridge Assessment English การที่แบบทดสอบภาษาอังกฤษระดับสากลทั้งหมดใช้มาตรฐาน 2 ปีเดียวกันแสดงให้เห็นถึงฉันทามติของผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินภาษาเกี่ยวกับระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการสะท้อนความสามารถในปัจจุบัน
3. องค์กรประเภทใดบ้างที่เข้มงวดกับอายุคะแนน TOEIC มากเป็นพิเศษ?
สายการบิน บริษัทโรงแรมระดับนานาชาติ และบริษัทข้ามชาติในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมักมีนโยบายเข้มงวดเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องการความมั่นใจในทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของพนักงาน ในทางตรงกันข้าม สถาบันการศึกษาภาครัฐและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรบางแห่งอาจมีความยืดหยุ่นมากกว่า แต่ยังคงยึดถือหลัก 2 ปีเป็นแนวทางหลัก
4. หากคะแนนหมดอายุไปเพียง 1 วัน ยังสามารถใช้ยื่นสมัครงานได้ใช่หรือไม่?
ตามหลักการแล้ว ไม่สามารถใช้ได้ แม้จะหมดอายุเพียง 1 วันก็ตาม เนื่องจากระบบการตรวจสอบของสถาบันส่วนใหญ่จะคำนวณอายุคะแนนโดยอัตโนมัติ และจะปฏิเสธเอกสารที่เกินกำหนดทันที การเสี่ยงใช้คะแนนที่หมดอายุแล้วอาจส่งผลให้ใบสมัครของคุณถูกตัดออกจากการพิจารณาโดยไม่มีโอกาสชี้แจง
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ คะแนน TOEIC เก็บ ได้ กี่ ปี เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการวางแผนพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างยั่งยืน แทนที่จะมองคะแนน TOEIC เป็นเพียงเอกสารที่มีวันหมดอายุ ควรมองว่าเป็นเครื่องมือวัดความก้าวหน้าของทักษะที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
คะแนน TOEIC อยู่ ได้ กี่ ปี ที่กำหนดไว้ 2 ปี ไม่ได้เป็นข้อจำกัด แต่เป็นคำเตือนให้เราพัฒนาและใช้ทักษะภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ การมองในแง่นี้จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในความสามารถของตนเองมากกว่าการพึ่งพาตัวเลขคะแนนที่อาจไม่สะท้อนศักยภาพในปัจจุบันได้อย่างแม่นยำ
การลงทุนในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องจะให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืนกว่าการกังวลเกี่ยวกับวันหมดอายุของคะแนนสอบ ไม่ว่าคุณจะต้องสอบใหม่เมื่อใดก็สามารถทำได้ด้วยความมั่นใจและประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
