เคยสงสัยไหมว่าทำไมการถามคำถามถึงเป็นกุญแจสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ? การสร้างคำถามที่ดีช่วยให้คุณขอข้อมูล เข้าใจบทสนทนา และสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ Wh-Question คือ คำถามที่เริ่มต้นด้วยคำเฉพาะที่ใช้ขอข้อมูลหรือรายละเอียด ไม่ใช่แค่คำตอบสั้นๆ แบบใช่หรือไม่ใช่ บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จักกับ Wh-words ทุกตัว เข้าใจโครงสร้างประโยคอย่างถ่องแท้ พร้อมทั้งฝึกฝนความเข้าใจผ่านแบบฝึกหัดที่จะทำให้คุณใช้คำถามเหล่านี้ได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาประจำวัน การทำงาน หรือการสอบภาษาอังกฤษต่างๆ
I. Wh-Question คืออะไร?
Wh question คือ ประเภทของคำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำที่มักเริ่มด้วยตัวอักษร “Wh” (ยกเว้น How ที่เป็นข้อยกเว้น) คำถามประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อขอข้อมูลเฉพาะเจาะจง รายละเอียด หรือคำอธิบายจากผู้ฟัง แทนที่จะได้คำตอบแค่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เหมือนคำถาม Yes/No Question จุดประสงค์หลักของคำถาม Wh คือการแสวงหาข้อมูล (Information Seeking) ที่ช่วยให้เราเข้าใจบริบท เหตุผล หรือรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน คำถามเหล่านี้ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสาร ทั้งในชีวิตประจำวัน การทำงาน และการเรียนรู้ภาษา
Wh-Question vs. Yes/No Question
เพื่อให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ลองมาดูตารางเปรียบเทียบระหว่างคำถาม Wh กับ Yes/No Question:
| ประเภท (Type) | ตัวอย่างคำถาม (Example) | ประเภทคำตอบ (Answer Type) | จุดประสงค์ (Purpose) |
| Wh-Question | Where do you live? | ข้อมูล (Information): Bangkok, New York, etc. | ต้องการรายละเอียดเฉพาะเจาะจง |
| Yes/No Question | Do you live in Bangkok? | ใช่/ไม่ใช่ (Yes/No) | ต้องการการยืนยันหรือปฏิเสธ |
ตารางนี้แสดงให้เห็นว่า ประโยค wh question นำไปสู่คำตอบที่มีเนื้อหาและรายละเอียด ในขณะที่คำถาม Yes/No ให้คำตอบที่จำกัดอยู่แค่การยืนยันหรือปฏิเสธ ความเข้าใจจุดแตกต่างนี้ช่วยให้คุณเลือกใช้คำถามได้ตรงตามวัตถุประสงค์
II. เจาะลึก Wh-Words: 8+ ตัวที่ใช้บ่อย
เมื่อเข้าใจแนวคิดพื้นฐานแล้ว มาทำความรู้จักกับคำถาม wh words แต่ละตัวกันอย่างละเอียด เราจะจัดกลุ่มตามลักษณะการใช้งานเพื่อให้คุณเรียนรู้ได้ง่ายและจดจำได้นาน

1. What (อะไร)
คำถาม What ใช้ถามเกี่ยวกับสิ่งของ ข้อมูล การกระทำ หรือคำอธิบายต่างๆ เป็นคำถามที่ใช้บ่อยที่สุดในบทสนทนาประจำวัน และสามารถใช้ได้ในหลากหลายบริบท
What ถามอะไร? ตัวอย่างประโยค:
- What is your name? (คุณชื่ออะไร?)
- What do you do for a living? (คุณทำงานอะไร?)
- What happened yesterday? (เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น?)
คำว่า What ทำหน้าที่เป็นคำสรรพนาม (Interrogative Pronoun) ที่ช่วยให้คุณขอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่รู้จักหรือต้องการทราบรายละเอียด
2. Where (ที่ไหน)
คำถาม Where ใช้ถามเกี่ยวกับสถานที่ ตำแหน่ง หรือทิศทาง เป็นคำถามที่จำเป็นเมื่อคุณต้องการทราบข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์หรือตำแหน่งของสิ่งต่างๆ
Where ถามอะไร? ตัวอย่างประโยค:
- Where do you live? (คุณอยู่ที่ไหน?)
- Where is the nearest hospital? (โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอยู่ไหน?)
- Where did you go last weekend? (สุดสัปดาห์ที่แล้วคุณไปไหนมา?)
คำว่า Where ทำหน้าที่เป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Interrogative Adverb) ที่บอกถึงสถานที่ในประโยคคำถาม
3. When (เมื่อไหร่)
คำถาม When ใช้ถามเกี่ยวกับเวลา วัน เดือน ปี หรือช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดตารางเวลาและวางแผน
When ถามอะไร? ตัวอย่างประโยค:
- When is your birthday? (วันเกิดคุณวันไหน?)
- When did you arrive? (คุณมาถึงเมื่อไหร่?)
- When will the meeting start? (การประชุมจะเริ่มเมื่อไหร่?)
คำว่า When ทำหน้าที่เป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Interrogative Adverb) ที่ระบุเวลาในประโยคคำถาม ช่วยให้คุณขอข้อมูลเชิงเวลาได้อย่างแม่นยำ
4. Who (ใคร)
คำถาม who ใช้ถามเกี่ยวกับบุคคล ตัวตน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เป็นคำถามที่ใช้เมื่อคุณต้องการทราบว่าใครเป็นคนทำหรือใครอยู่ในสถานการณ์นั้น
Who ถามอะไร? ตัวอย่างประโยค:
- Who is that person? (คนนั้นเป็นใคร?)
- Who called you this morning? (ใครโทรหาคุณเมื่อเช้านี้?)
- Who will attend the conference? (ใครจะเข้าร่วมการประชุม?)
คำว่า Who ทำหน้าที่เป็นคำสรรพนาม (Interrogative Pronoun) ที่ใช้แทนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการทราบว่าใครเป็นประธานของประโยค
5. Whose (ของใคร)
คำถาม Whose ใช้ถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของหรือความเกี่ยวข้องระหว่างบุคคลกับสิ่งของ เป็นรูปแบบที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน
6. Whose ถามอะไร? ตัวอย่างประโยค:
- Whose book is this? (นี่หนังสือของใคร?)
- Whose car is parked outside? (รถที่จอดข้างนอกเป็นของใคร?)
- Whose idea was that? (นั่นเป็นไอเดียของใคร?)
คำว่า Whose ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ที่แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Determiner) และช่วยให้คุณถามถึงความเป็นเจ้าของได้อย่างเป็นทางการ
7. Whom (ใคร – กรณีกรรม)
คำถาม Whom เป็นรูปแบบทางการของ Who ที่ใช้เมื่อบุคคลนั้นเป็นกรรมของประโยค (Object) แม้ว่าในภาษาพูดทั่วไปจะใช้ Who แทนได้ แต่ในงานเขียนทางการหรือการสอบ Whom ยังคงมีความสำคัญ
Whom ถามอะไร? ตัวอย่างประโยค:
- Whom did you invite to the party? (คุณเชิญใครมางานปาร์ตี้?)
- To whom should I address this letter? (ฉันควรเขียนจดหมายนี้ถึงใคร?)
- Whom are you waiting for? (คุณกำลังรอใคร?)
คำว่า Whom ทำหน้าที่เป็นคำสรรพนามในรูปกรรม (Object Pronoun) และถือเป็นภาษาที่เป็นทางการมากกว่า Who
8. Which (อันไหน)
คำถาม Which ใช้ถามเมื่อมีตัวเลือกที่จำกัด เป็นคำถามที่ช่วยให้ผู้ฟังเลือกจากกลุ่มหรือชุดของสิ่งของหรือความเป็นไปได้ที่กำหนดไว้แล้ว
Which ถามอะไร? ตัวอย่างประโยค:
- Which color do you prefer, red or blue? (คุณชอบสีไหนมากกว่า แดงหรือน้ำเงิน?)
- Which bus goes to the airport? (รถเมล์สายไหนไปสนามบิน?)
- Which option is better for us? (ตัวเลือกไหนดีกว่าสำหรับเรา?)
คำว่า Which ทำหน้าที่เป็นทั้งคำสรรพนามและคำคุณศัพท์ (Interrogative Pronoun/Adjective) ที่ใช้เมื่อมีตัวเลือกที่ระบุได้ชัดเจน
9. Why (ทำไม)
ประโยค why ใช้ถามเกี่ยวกับเหตุผล สาเหตุ หรือวัตถุประสงค์ เป็นคำถามที่เจาะลึกถึงแรงจูงใจหรือที่มาที่ไปของเหตุการณ์ ช่วยให้เข้าใจบริบทและเหตุผลเบื้องหลัง
Why ถามอะไร? ตัวอย่างประโยค:
- Why are you late? (ทำไมคุณมาสาย?)
- Why did they cancel the event? (ทำไมพวกเขาถึงยกเลิกงาน?)
- Why is this important? (ทำไมสิ่งนี้ถึงสำคัญ?)
คำว่า Why ทำหน้าที่เป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Interrogative Adverb) ที่ระบุเหตุผลและช่วยให้คุณเข้าใจความเชื่อมโยงเชิงเหตุผล
10. How (อย่างไร)
คำถาม How ถึงแม้จะไม่ขึ้นต้นด้วย “Wh” แต่ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม what where when why how เพราะใช้ขอข้อมูลเช่นเดียวกัน How ใช้ถามเกี่ยวกับวิธีการ กระบวนการ สภาพ หรือระดับของสิ่งต่างๆ
How ถามอะไร? ตัวอย่างประโยค:
- How do you cook this dish? (คุณทำอาหารจานนี้ยังไง?)
- How are you feeling today? (วันนี้คุณรู้สึกยังไง?)
- How long will it take? (จะใช้เวลานานแค่ไหน?)
คำว่า How มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรวมกับคำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์เพื่อถามเรื่องระดับ ปริมาณ หรือความถี่ เช่น How much (เท่าไหร่), How many (กี่), How often (บ่อยแค่ไหน), How far (ไกลแค่ไหน) ทำให้เป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้หลากหลายในการสนทนา
III. สูตรสร้างประโยค Wh-Question
เมื่อรู้จักคำถาม Wh แต่ละตัวแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเรียนรู้โครงสร้างประโยคที่ถูกต้อง การเข้าใจโครงสร้างช่วยให้คุณสร้างคำถามได้อย่างแม่นยำและมั่นใจในทุกสถานการณ์
1. โครงสร้างมาตรฐาน
สูตรหลัก: Wh-word + Auxiliary Verb + Subject + Main Verb + (Object/Complement)?
โครงสร้างนี้ใช้กับคำถามส่วนใหญ่ที่ถามเกี่ยวกับกรรมหรือส่วนเสริมของประโยค การจำสูตรนี้ช่วยให้คุณสร้างคำถามได้อย่างถูกไวยากรณ์
ตัวอย่างพร้อมวิเคราะห์:
Where (Wh-word) + do (Auxiliary) + you (Subject) + live (Main Verb)?
- คำถาม: Where do you live?
- คำตอบตัวอย่าง: I live in Bangkok. (ฉันอยู่กรุงเทพฯ)
What (Wh-word) + did (Auxiliary) + she (Subject) + say (Main Verb)?
- คำถาม: What did she say?
- คำตอบตัวอย่าง: She said she would be late. (เธอบอกว่าเธอจะมาสาย)
When (Wh-word) + will (Auxiliary) + they (Subject) + arrive (Main Verb)?
- คำถาม: When will they arrive?
- คำตอบตัวอย่าง: They will arrive at 6 PM. (พวกเขาจะมาถึงตอน 6 โมงเย็น)
สังเกตว่าตำแหน่งของกริยาช่วย (do, does, did, will, can, etc.) อยู่ระหว่าง Wh-word และประธาน ซึ่งเป็นรูปแบบมาตรฐานที่ต้องจำ
2. โครงสร้างพิเศษ (Subject Questions)
สูตรพิเศษ: Wh-word + Main Verb + (Object/Complement)?
เมื่อ Who หรือ What เป็นประธานของประโยค เราไม่ต้องใช้กริยาช่วย (do/does/did) โครงสร้างนี้เรียกว่า Subject Questions เพราะเราถามเกี่ยวกับตัวประธานเอง
ตัวอย่างเปรียบเทียบที่ชัดเจน:
Subject Question (ถามหาประธาน):
- Who (Subject) + broke (Main Verb) + the window (Object)?
- คำถาม: Who broke the window? (ใครทำหน้าต่างแตก?)
- คำตอบ: John broke it. (จอห์นทำมันแตก)
Object Question (ถามหากรรม – ใช้โครงสร้างมาตรฐาน):
- Who (Wh-word) + did (Auxiliary) + you (Subject) + see (Main Verb)?
- คำถาม: Who did you see? (คุณเห็นใคร?)
- คำตอบ: I saw Mary. (ฉันเห็นแมรี่)
การเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองโครงสร้างนี้เป็นกุญแจสำคัญในการใช้ wh question ถาม ตอบ อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ ความผิดพลาดที่พบบ่อยคือการใช้กริยาช่วยกับ Subject Questions ซึ่งไม่ถูกต้อง
IV. เคล็ดลับระดับโปร: แก้จุดสับสน
มีบางคำถามที่ผู้เรียนมักสับสนและใช้ผิด มาดูความแตกต่างที่สำคัญเพื่อให้คุณใช้คำถามเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำ
- Who vs. Whom
Who:
- ใช้เป็นประธาน (Subject) – ผู้ที่กระทำการ
- ตัวอย่าง: Who sent the email? (ใครส่งอีเมล?) – Who เป็นคนที่ส่ง
- ใช้ในภาษาพูดทั่วไปได้ทุกกรณี
Whom:
- ใช้เป็นกรรม (Object) – ผู้ที่ถูกกระทำหรือเป็นผู้รับ
- ตัวอย่าง: Whom did you meet? (คุณไปพบใคร?) – Whom เป็นผู้ที่ถูกพบ
- ใช้ในงานเขียนทางการและการสอบ
เคล็ดลับ: ในชีวิตประจำวันและการสนทนาทั่วไป การใช้ Who แทน Whom เป็นที่ยอมรับได้และเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ในงานเขียนทางการ บทความวิชาการ หรือการสอบภาษาอังกฤษระดับสูง การใช้ Whom อย่างถูกต้องยังคงจำเป็นและแสดงถึงความเชี่ยวชาญทางภาษา
- What vs. Which
What:
- ใช้สำหรับตัวเลือกที่ไม่จำกัดหรือไม่มีกรอบชัดเจน
- ตัวอย่าง: What do you want to eat? (คุณอยากกินอะไร?) – ตัวเลือกไม่จำกัด อาจเป็นอาหารอะไรก็ได้ทั้งหมดในโลก
Which:
- ใช้สำหรับตัวเลือกที่จำกัดหรือมีกรอบที่กำหนดไว้
- ตัวอย่าง: Which dish do you want, the pasta or the steak? (คุณอยากได้อันไหน พาสต้าหรือสเต็ก?) – มีแค่ 2 ตัวเลือกให้เลือก
ตัวอย่างเปรียบเทียบที่เห็นภาพชัดเจน:
- What kind of movies do you like? (คุณชอบหนังประเภทไหน?) – ไม่จำกัดประเภท
- Which movie should we watch tonight, Action or Comedy? (เราควรดูหนังเรื่องไหนคืนนี้ แอ็คชั่นหรือคอมเมดี้?) – มี 2 ตัวเลือกชัดเจน
การเลือกใช้ What หรือ Which อย่างเหมาะสมช่วยให้คำถามของคุณชัดเจนและผู้ฟังเข้าใจบริบทได้ดีขึ้น
เมื่อเข้าใจหลักการทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำความรู้ไปใช้จริง การเรียนรู้ไวยากรณ์ไม่ใช่แค่การท่องจำกฎ แต่เป็นการฝึกฝนจนกลายเป็นทักษะที่ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว ส่วนถัดไปจะช่วยให้คุณเข้าใจแง่มุมเชิงลึกและฝึกปฏิบัติจริงผ่านแบบฝึกหัด พร้อมตอบคำถามที่หลายคนอาจยังสงสัยเกี่ยวกับการใช้ Wh-Questions ในบริบทต่างๆ
VI. แบบฝึกหัด: ทดสอบความเข้าใจ
มาฝึกฝนความรู้ที่ได้เรียนมาด้วยแบบฝึกหัดเติมคำในช่องว่าง เลือก Wh-word ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละประโยค:
คำถาม:
- _____ is your favorite color? (สีโปรดของคุณคืออะไร?)
- _____ did you meet at the party last night? (คุณเจอใครที่งานปาร์ตี้เมื่อคืน?)
- _____ does this train arrive in Tokyo? (รถไฟขบวนนี้ถึงโตเกียวเมื่อไหร่?)
- _____ bag is this on the table? (กระเป๋าใบนี้บนโต๊ะเป็นของใคร?)
- _____ are you learning English? (ทำไมคุณถึงเรียนภาษาอังกฤษ?)
- _____ book should I read first, this one or that one? (ฉันควรอ่านหนังสือเล่มไหนก่อน เล่มนี้หรือเล่มนั้น?)
- _____ do you get to work every day? (คุณเดินทางไปทำงานยังไงทุกวัน?)
เฉลย:
- What is your favorite color? – ถามเกี่ยวกับสิ่งของ (สี) จากตัวเลือกไม่จำกัด
- Who did you meet at the party last night? – ถามเกี่ยวกับบุคคลที่พบ
- When does this train arrive in Tokyo? – ถามเกี่ยวกับเวลา
- Whose bag is this on the table? – ถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ
- Why are you learning English? – ถามเกี่ยวกับเหตุผล
- Which book should I read first, this one or that one? – เลือกจากตัวเลือกที่จำกัด (2 เล่ม)
- How do you get to work every day? – ถามเกี่ยวกับวิธีการเดินทาง
VII. คำถามที่พบบ่อยและแง่มุมทางภาษาศาสตร์
1. “Question Word” กับ “Wh-Question” ต่างกันอย่างไร?
Question word คือ อะไร? คำว่า Question Word หมายถึงคำที่ใช้ขึ้นต้นคำถามทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Wh-Questions หรือคำอื่นๆ ที่ใช้ถามคำถาม ในขณะที่ Wh-Question เป็นกลุ่มย่อยที่เฉพาะเจาะจงของ Question Words ที่เริ่มด้วย Wh (และ How) Question Words อาจรวมถึงคำอื่นๆ เช่น Can, Do, Is ที่ใช้เริ่มคำถาม Yes/No ด้วย แต่คำถาม Wh เน้นที่การขอข้อมูลเฉพาะเจาะจงเป็นหลัก ดังนั้น Wh-Questions เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Question Words ทั้งหมดในภาษาอังกฤษ
2. แบ่งตามหลักไวยากรณ์ได้อย่างไร?
ตามหลักไวยากรณ์ Wh-words สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก:
กลุ่มที่ 1: Interrogative Pronouns (คำสรรพนามคำถาม)
- Who – ใช้แทนบุคคล
- Whom – ใช้แทนบุคคล (รูปกรรม)
- What – ใช้แทนสิ่งของหรือข้อมูล
- Which – ใช้เลือกจากตัวเลือกที่จำกัด
- Whose – ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ
กลุ่มที่ 2: Interrogative Adverbs (กริยาวิเศษณ์คำถาม)
- Where – บอกสถานที่
- When – บอกเวลา
- Why – บอกเหตุผล
- How – บอกวิธีการหรือสภาพ
การเข้าใจหมวดหมู่เหล่านี้ช่วยให้คุณเลือกใช้คำที่เหมาะสมกับบริบทและสร้างประโยคที่ถูกไวยากรณ์
3. Why vs. How come ต่างกันยังไง?
ทั้ง Why และ How come ใช้ถามเหตุผล แต่มีความแตกต่างสำคัญ 2 อย่าง:
ความเป็นทางการ:
- Why เป็นภาษาที่เป็นทางการและใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ทั้งงานเขียน การสอบ และการสนทนา
- How come เป็นภาษาพูดที่ไม่เป็นทางการ ใช้ในการสนทนาแบบสบายๆ เท่านั้น
โครงสร้างประโยค:
- Why: ต้องใช้กริยาช่วยและการกลับประโยค เช่น Why did you leave? (ทำไมคุณถึงไป?)
- How come: ไม่ต้องกลับประโยค ใช้โครงสร้างปกติ เช่น How come you left? (ทำไมคุณถึงไป?)
การเลือกใช้ระหว่างทั้งสองขึ้นอยู่กับบริบทและระดับความเป็นทางการของการสื่อสาร
4. คำถาม Wh ต้องมีเครื่องหมายคำถาม (?) เสมอไปหรือไม่?
คำตอบคือ ไม่เสมอไป แม้ว่าคำถาม Wh โดยทั่วไปจะต้องมีเครื่องหมายคำถามในประโยคคำถามตรง (Direct Questions) แต่ในกรณีของ Indirect Questions (คำถามอ้อม) เราไม่ใช้เครื่องหมายคำถาม
ตัวอย่าง:
- Direct Question: Where is the station? (สถานีอยู่ไหน?)
- Indirect Question: Can you tell me where the station is. (คุณช่วยบอกได้ไหมว่าสถานีอยู่ไหน)
- Direct Question: What time does the movie start? (หนังเริ่มกี่โมง?)
- Indirect Question: I wonder what time the movie starts. (ฉันสงสัยว่าหนังเริ่มกี่โมง)
สังเกตว่าใน Indirect Questions โครงสร้างประโยคจะเปลี่ยนเป็นแบบบอกเล่า (Statement) และไม่ต้องการเครื่องหมายคำถาม การเข้าใจจุดนี้แสดงถึงความเชี่ยวชาญและความเข้าใจภาษาในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในการสอบ IELTS หรือ TOEIC ที่มักทดสอบความเข้าใจในโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อน
การเรียนรู้ wh question คือ มากกว่าแค่การท่องจำโครงสร้างและกฎเกณฑ์ มันคือการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ การถามคำถามที่ดีช่วยให้คุณเข้าใจบทสนทนาลึกซึ้งขึ้น แสดงความสนใจในผู้อื่น และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ไม่ว่าคุณจะใช้คำถามเหล่านี้ในการสนทนาประจำวัน การทำงาน การเรียนในชั้นเรียน หรือการสอบภาษาอังกฤษระดับสากล การเชี่ยวชาญ Wh-Questions เปรียบเสมือนการถือกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่โอกาสและความสัมพันธ์ใหม่ๆ
เมื่อคุณเข้าใจโครงสร้างและหลักการใช้งานแล้ว สิ่งสำคัญต่อไปคือการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ลองใช้คำถาม Wh ในการสนทนาจริง สังเกตว่าเจ้าของภาษาใช้คำถามเหล่านี้อย่างไรในภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือพอดแคสต์ และที่สำคัญที่สุดคืออย่ากลัวที่จะทำผิด เพราะการเรียนรู้ภาษาเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการลองผิดลองถูก ยิ่งคุณฝึกมากเท่าไหร่ ความมั่นใจและความคล่องแคล่วในการใช้ภาษาก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
